“โอกาสก็เหมือนอากาศ มันมีอยู่ทุกที่ เราจึงต้องพร้อมอยู่เสมอ” คำกล่าวของ คุนเจน-ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัด หนึ่งในผู้ที่ร่วมนำทัพสร้างนวัตกรรมเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ Hooray! (ฮูเร่!) ให้เป็นที่รู้จัก ในฐานะผลิตภัณฑ์นมโปรตีนสูงพร้อมดื่มเจ้าแรกของประเทศที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส
ปัจจุบัน Hooray! มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นสินค้าในกลุ่มนมโปรตีนสูงที่มียอดขายสูงสุดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น โดยคาดว่าในปี 2566 บริษัทจะมีรายได้รวมทุกช่องทางขายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นแบรนด์ Protein of Asia ในอีก 5 ปีข้างหน้า
“โอกาส” สร้างจุดเปลี่ยน
Hooray! เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2558 หรือเมื่อ 8 ปีที่ผ่านนมา ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้ามาปลดล็อกทุกข้อจำกัดของการทานเวย์โปรตีน ทั้งเรื่องรสชาติไม่ถูกปาก รสชาติไม่หลากหลาย ความยุ่งยากในการรับประทาน ที่ต้องนำมาผสมน้ำเอง รวมถึงแก้ Painpoint การรับประทานนมของคนไทยที่กว่า 98% มีโอกาสแพ้น้ำตาล Lactose ในนม ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ผายลมบ่อย คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือเกิดสิว
ทางคุณเจนและสามี (คุณต้น-วงษ์เดช เอี่ยวสานุรักษ์) จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์นมโปรตีนสูงพร้อมดื่มขึ้น โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ควบคู่กับการทำวิจัย จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกคือ Hooray! Better Shake ซึ่ง 1 ขวด จะมีโปรตีนเทียบเท่านมธรรมดา 5 แก้ว จากการพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อนำสารอาหารที่ไม่จำเป็นอย่างเช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ออก ทำให้ได้รับโปรตีนเต็มที่ และเป็นต้นแบบไปสู่การพัฒนาสินค้าอื่นๆ ของบริษัทตามมา
“การทำตลาดในช่วงเริ่มต้นนั้น ทาง Hooray! ได้ทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้มีโอกาสไปร่วมงาน THAIFEX ในปี 2560 และได้พบกับทีมบริหารผลิตภัณฑ์และจัดซื้อของทางเซเว่นฯ ที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจสุขภาพในขณะนั้น ทางบริษัทจึงได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับทางเซเว่นฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าสุขภาพ ที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย และหาซื้อได้ง่าย ในราคาที่ทุกคนสามารถหาซื้อรับประทานได้ จนได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ Hooray! Protein Shake สินค้าขายดีของแบรนด์ในปัจจุบัน”
หลังมีโอกาสได้นำสินค้าเข้าจำหน่ายในเซเว่นฯ เมื่อปี 2564 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีรายได้อยู่ที่หลักสิบล้านบาทต่อปี ก็ปรับเพิ่มเป็นหลัก 100 ล้านบาทต่อปี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 450 ล้านบาท
ใช้ “นวัตกรรม” สร้างความต่าง
ความมุ่งมั่นและตั้งใจของ Hooray! คือการเป็น “Protein Expert” ในฐานะแบรนด์คุณภาพ ที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย และสามารถหาซื้อง่าย ในราคาที่จับต้องได้ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนา “นวัตกรรม” ที่นอกจากจะช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้แล้ว ยังช่วยสร้างความต่างให้กับสินค้าอีกด้วย
และจากความต้องการแก้ Painpoint การแพ้แลคโตสในนมของคนไทย จึงได้พัฒนา Hooray! Protein Shake Lactose Free ขึ้น ซึ่งถือเป็น เจ้าแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตนมโปรตีนสูงที่ปราศจากน้ำตาล Lactose โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี Enzymatic เพื่อสกัดน้ำตาล Lactose ออกมา และมีโปรตีนสูง 29-31 กรัมต่อขวด ใน 4 รสชาติ ได้แก่ รสช็อกโกแลต, รสสตรอเบอร์รี, รสจืด, รสซอลท์เท็ด คาราเมล
แม้ Hooray! Protein Shake Lactose Free จะได้รับการตอบรับที่ดี จนก้าวสู่ผู้นำสินค้าในกลุ่มนมโปรตีนสูงที่มียอดขายสูงสุดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ได้ในที่สุด
แต่บริษัทก็ไม่ได้หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ ล่าสุด เทรนด์การบริโภคโปรตีนที่ได้จากพืชมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงได้คิดค้น Hooray! Complete Plant Protein ช่วยเพิ่มทางเลือกและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่มองหาสินค้ากลุ่มนมพืชโปรตีนสูง ที่มีโปรตีนเฉลี่ยอยู่ที่ 27-30 กรัมต่อขวด โดยโปรตีนพืชที่นำมาใช้ได้รับการรับรองจากห้องทดลองมาตรฐานระดับสากลว่าเป็น Complete Protein คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด (Histidine, Leucine, Methionine, Threonine, Valine, Isoleucine, Lysine, Phenylalanine และ Tryptophan) มีส่วนผสมของ MCT Oil ที่ได้จากการสกัดจากน้ำมันมะพร้าว ซึ่งเป็นไขมันดี มีรสชาติอร่อย ด้วยเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง ช่วยให้ได้รสชาติที่ทานง่าย ไม่เหม็นเขียว ลื่นคอ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการบริโภคสินค้าที่ทำมาจากสัตว์
“เปิดรับไอเดียคนรุ่นใหม่” สร้างการเติบโต
ต้องยอมรับว่า “กลุ่มคนรุ่นใหม่” ถือเป็นพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจให้เติบโต บริษัทจึงไม่ปิดกั้นความคิดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งสินค้าทุกตัวของบริษัท ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาดที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งก็มาจากความคิดกลุ่มคนรุ่นใหม่
“ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 50-60 คน มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 35 ปี พนักงานทั้งหมดมีสิทธิ์ที่จะแสดงความสามารถและศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ บริษัทจึงไม่ปิดกั้นความคิดของพนักงาน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความคิดและมุมมองที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมล่าสุด “Hooray! Good Vibes Only” ส่งต่อความสุขและรอยยิ้มให้ลูกค้าผ่านฝาฟอยล์บนขวด โดยการส่งมอบข้อความดีๆไปยังผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยมุมมองว่าบริษัทไม่สามารถเติบโตเพียงฝ่ายเดียว แต่ควรที่จะมีส่วนในการช่วยส่งต่อพลังบวกกลับสู่สังคมด้วยเช่นกัน ให้สังคมยิ้มได้อย่างมีความสุข สอดคล้องกับ DNA ของแบรนด์ Hooray”
เรื่องราวของ Hooray! ทำให้เห็นเคล็ดลับความสำเร็จ คือ การสร้างความแตกต่างให้สินค้า โดยเครื่องมือที่ช่วยสร้างความต่างได้ดีที่สุดคือการใช้ “นวัตกรรม” ควบคู่กับพลังของคนรุ่นใหม่มาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน เมื่อผู้ประกอบการมีความพร้อมในทุกด้านแล้ว เมื่อใดที่โอกาสมาถึงก็จะสามารถคว้าไว้ได้ทันที เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต