บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ประกาศความสำเร็จในการรีไซเคิลขวด PET ที่ใช้งานแล้วครบ 1 แสนล้านขวด เทียบเท่ากับการวางขวดน้ำเรียงต่อกันยาวเท่ากับระยะทางไปกลับดวงจันทร์มากกว่า 26 รอบ ช่วยลดปริมาณขยะจากสิ่งแวดล้อมได้ 2.1 ล้านตัน และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ลงได้ 2.9 ล้านตัน
ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนการพัฒนาในอัตราเร่งเมื่อเทียบกับ การรีไซเคิลขวด PET ครบ 5 หมื่นล้านขวด เมื่อเดือนมีนาคม 2563 หรือคิดเป็นระยะเวลา 9 ปี นับจากเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ขณะที่สามารถเพิ่มปริมาณได้เท่าตัวภายในเวลาเพียง 3 ปีครึ่งเท่านั้น
คุณอาลก โลเฮีย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า พลาสติก PET ที่ใช้สำหรับผลิตขวดน้ำดื่มและขวดน้ำอัดลม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด และถูกเก็บรวบรวมนำไปรีไซเคิลได้จริงและในปริมาณมาก ด้วยเหตุนี้ PET จึงเป็นพลาสติกที่ถูกนำมารีไซเคิลมากที่สุดในโลก โดยสถิติใหม่ในการรีไซเคิลขวด PET จำนวน 1 แสนล้านขวด มาจากความร่วมมือทั้งของผู้บริโภคที่ร่วมส่งคืนผลิตภัณฑ์เข้าสู่ระบบ ตลอดจนแบรนด์ต่างๆ ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์ PET ที่สามารถรีไซเคิลได้ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจาก PET รีไซเคิล ขณะเดียวกันยังช่วยทำให้อัตราการเก็บรวบรวมขวด PET เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความท้าทายต่อการจัดการขยะที่มีปริมาณมากขึ้นต่อเนื่อง กระตุ้นให้ต้องเพิ่มการทำงานให้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราลงทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดเก็บขวด PET ที่ผ่านการใช้แล้วอย่างเป็นระบบ และมีแผนเพิ่มการลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการขยายธุรกิจรีไซเคิลเพื่อสนับสนุนอัตราการรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยได้ขยายโรงงานรีไซเคิลอีกหลายแห่ง รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและโครงการให้ความรู้แก่สาธารณชน และยังคงเสาะหาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานการรีไซเคิลทั่วโลกให้มากขึ้น และลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตลอดวงจรชีวิตของวัสดุ เพื่อตอกย้ำจุดยืนของบริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสำหรับใช้ผลิตขวดเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในโลก”
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงงานรีไซเคิล 20 แห่ง ในภูมิภาคเอเชีย อเมริกา และยุโรป ซึ่งการพัฒนาล่าสุด ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานรีไซเคิลในประเทศบราซิลเป็นสองเท่า และการเปิดโรงงาน PETValue เพื่อรีไซเคิลขวดเครื่องดื่มใช้งานแล้วนำไปผลิตเป็นขวดใหม่ (bottle-to-bottle recycling) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ โดยความร่วมมือกับ Coca-Cola
โดยทั้งสองโครงการเป็นส่วนหนึ่งของ ‘สินเชื่อสีน้ำเงิน’ มูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้รับในปี 2563 จากบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation หรือ IFC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย โดยเงินกู้ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรีไซเคิล และลดปริมาณขยะพลาสติกจากการฝังกลบและเล็ดลอดสู่มหาสมุทรในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย และบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องการการสนับสนุนในการจัดการขยะสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังได้ร่วมมือกับมูลนิธิยูนุส ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้เครือข่ายระดับโลก โดยมีเป้าหมายในการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคหนึ่งล้านคนทั่วโลกเกี่ยวกับการรีไซเคิลภายในปี 2573 ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเข้าถึงไปแล้วกว่า 200,000 ราย
นายอาลก กล่าวเสริมว่า “ความยั่งยืนถือเป็นแก่นสำคัญในบริษัทฯ ของเรา ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และปณิธานของเราในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับบรรจุภัณฑ์ PET รีไซเคิลอย่างแท้จริง โดยการบรรลุเป้าหมายครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นต่อโลก โดยแต่ละขวดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการลดปริมาณขยะ และการขับเคลื่อนสู่โลกที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ใดถูกทิ้งหรือเป็นของเสีย การบรรลุเป้าหมายครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อพวกเราทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนการรีไซเคิล PET และมุ่งมั่นเพื่อโลกเกิดการหมุนเวียนมากขึ้น”