“เราให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ เพื่อสามารถสร้างคุณค่าร่วมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ภายใต้กรอบ IMPACT ที่ใช้ศักยภาพขององค์กรเพื่อส่งต่อผลกระทบเชิงบวกให้ครอบคลุมทุกมิติ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างการเติบโตอย่างสมดุล ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”
คำกล่าวของ คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ และขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการใช้ศักยภาพขององค์กร ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่สามารถเข้าไปมีส่วนช่วยดูแลสังคม รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้คนไปได้พร้อมกัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “กัลฟ์” นำความเชี่ยวชาญทางธุรกิจและศักยภาพขององค์กรไปต่อยอดเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้สมาชิกชุมชนในท้องถิ่น รวมทั้งกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการดูแลด้านสุขภาพซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญและนำมาสู่การพัฒนาอื่นๆ ตามมา รวมทั้งการผลักดันโครงการส่งเสริมสุขภาพด้านต่างๆ เพื่อมีส่วนช่วยยกระดับโครงสร้างระบบสาธารณสุขโดยรวมของประเทศ
โดยเฉพาะมิติในการขับเคลื่อนผ่าน Medical Services ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแกนสำคัญเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียม และเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทย พร้อมทั้งเพิ่ม Productivity ให้ภาคสาธารณสุขของประเทศในภาพรวมได้ด้วย
โดยเฉพาะโครงการล่าสุดในการสนับสนุน “ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจไปพร้อมการส่งมอบพลังบวกให้ผู้คนและสังคมรอบด้าน
เนื่องจากประเทศไทย มีจำนวนผู้ป่วยไตเรื้อรังกว่า 11.6 ล้านคน และมากกว่า 1 แสนคน ที่ต้องล้างไต ขณะที่การเข้าถึงบริการเพื่อรับการรักษายังมีข้อจำกัดอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร สถานพยาบาล หรือแม้แต่อุปกรณ์เครื่องฟอกเลือดที่ใช้ในการล้างไต รวมไปถึงการฟอกไตแต่ละครั้งที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน หรือหากไม่สามารถมาฟอกไตได้ทันก็อาจทำให้ผู้ป่วยไตวายและเสียชีวิตได้ในที่สุด
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนอย่างชัดเจนว่า ปัญหาเรื่องไตเป็นอีกหนึ่งโรคสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพของคนไทยอย่างมาก การสร้าง “ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์” จึงเป็นหนึ่งความจำเป็นที่จะเข้ามาช่วยดูแลและยกระดับสุขภาพคนไทยให้เข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างเท่าเทียม
ซึ่งคุณสารัชถ์เอง ก็เคยมีประสบการณ์ที่คนใกล้ตัวต้องเข้ารับการรักษาโรคไต ทำให้เข้าใจถึงกระบวนการในการรักษาและความจำเป็นที่ต้องมีเครื่องมือศักยภาพสูงเพื่อมาช่วยดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
“ผมเคยมีช่วงเวลาสำคัญที่ต้องพาคุณพ่อเข้ารับการฟอกเลือดเพื่อรักษาโรคไต ทำให้มีโอกาสเห็นกระบวนการรักษาที่ต้องใช้เวลานาน และจำนวนผู้ป่วยที่รอคิวเข้ารับการรักษาก็มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกอย่างต้องแข่งขันกับเวลา เพราะไตเป็นอวัยวะสำคัญ หากไม่สามารถฟอกเลือดได้ทันอาจทำให้ไตวายจนเสียชีวิตได้ เป็นที่มาในการพัฒนาศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง กับทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์แห่งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีความทันสมัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้”
ยกระดับสู่ Excellence Center ดูแลแบบองค์รวม
การเข้ามาสนับสนุนศูนย์ไตเทียมของกัลฟ์ครั้งนี้ จะเป็นมากกว่าแค่การสนับสนุนเงินบริจาค แต่มีเป้าหมายสำคัญคือการยกระดับไปสู่การเป็น Excellence Center ที่สามารถรองรับผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยบำบัดทดแทนไตได้อย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงระบบการรักษาโรคไตที่มีประสิทธิภาพ พร้อมต่อยอดเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ให้นักศึกษาแพทย์สำหรับการเรียนและฝึกปฏิบัติ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันเพื่อสามารถป้องกันการเกิดโรคไตได้แบบองค์รวม
ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้ให้บริการฟอกไตแก่ผู้ป่วยโรคไตในพื้นที่รวมถึงรองรับผู้ป่วยจากจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายแบบเรื้อรัง ซึ่งภายหลังจากที่กัลฟ์เข้ามาสนับสนุน จะทำให้พื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร ของศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูงแห่งนี้ สามารถขยายการให้บริการและการรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้มากขึ้น
ด้วยความพร้อมที่มากขึ้นทั้งบุคลากร สถานที่ และเครื่องมือที่ทันสมัย จากการมีเครื่องฟอกไตประสิทธิภาพสูงถึง 30 เครื่อง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 80-90 เคสต่อวัน รวมทั้งสามารถให้บริการผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่ต้องรับการรักษาบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ครอบคลุมทั้งการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบเรื้อรัง สำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงหัตถการพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคไต เช่น การใส่สายสวนชนิด 2 ช่องทาง (Hemodialysis Catheter) เพื่อใช้ฟอกเลือดทั้งแบบชั่วคราว และแบบถาวรอีกด้วย
นอกจากศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แห่งนี้ กัลฟ์ยังได้ขับเคลื่อน Medical Services เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขให้คนไทยทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมมาโดยตลอด ผ่านอีกหลากหลายโครงการที่ได้ดำเนินงาน เช่น
– ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกระโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งกัลฟ์สนับสนุนต่อเนื่องถึงปัจจุบันมากว่า 8 ปี ทั้งการสนับสนุนเงินบริจาคเพื่อใช้ในกิจการของศูนย์ การร่วมเป็นอาสาสมัครกิจกรรมคลินิกเคลื่อนที่ไปรักษาผู้ป่วยในจังหวัดต่างๆ รวมทั้งมอบทุนการศึกษา “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” ให้ผู้ป่วยของศูนย์ ซึ่งช่วยเหลือต่อเนื่องมากว่า 4 ปี ถึงปัจจุบัน
– สนับสนุนงบประมาณจัดซื้อเครื่องมือผ่าตัดกระดูกสันหลังระบบไฟฟ้าความเร็วสูง ให้โรงพยาบาลตำรวจ
– สมทบทุนสร้างโรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา
– สนับสนุนจัดซื้อเครื่อง Surgical Simulator (หุ่นจำลองเพื่อการเรียนการสอนโรคหลอดเลือดสมอง) ให้โรงพยาบาลรามาธิบดี
– สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ให้โรงเรียนแพทย์ ประกอบด้วย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลตำรวจ
– ช่วยเหลือด้านการแพทย์ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เช่น สนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยการสมทบทุนจัดทำเป็น Hospitel รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ,สนับสนุนโรงพยาบาลราชวิถี ผ่านการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และผู้ป่วยภาวะการหายใจล้มเหลว รวมทั้งจัดทำกล่อง “GULF CARE” (กัลฟ์แคร์) บรรจุยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เป็นต้น
– โครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
– สนับสนุนโรงพยาบาลในต่างจังหวัด เช่น โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี และโรงพยาบาลปลวกแดง จ.ระยอง เป็นต้น
เห็นได้ว่า “กัลฟ์” มุ่งมั่นที่จะลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพมาโดยตลอด เพื่อต้องการให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง และช่วยส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงของคนไทย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการการต่อยอดไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ทุกมิติตามมา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือการมีเศรษฐกิจที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งล้วนมีความจำเป็นที่ต้องเริ่มต้นด้วยการมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและสุขภาพที่ดีเป็นต้นทุนสำคัญแทบทั้งสิ้น