บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และ Carbios บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่พัฒนาโซลูชั่นชีวภาพและนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างวงจรชีวิตใหม่สำหรับพลาสติกและสิ่งทอ ประกาศลงนามบันทึกความเข้าใจซึ่งไม่มีผลผูกพัน (non-binding MOU) เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำหรับก่อสร้างโรงงานรีไซเคิล PET เชิงชีวภาพแห่งแรกของโลกในประเทศฝรั่งเศส
ภายใต้เงื่อนไขที่ครอบคลุมในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส วางแผนระดมทุนประมาณ 110 ล้านยูโร สำหรับการร่วมทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นและเงินกู้ที่ไม่สามารถแปลงสภาพได้ โดยอยู่ระหว่างการปรับปรุงเอกสารด้านวิศวกรรมและการศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจขั้นสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายรับทราบการดำเนินงานร่วมกันในโครงการ และตั้งเป้าสรุปเอกสารสัญญาก่อนสิ้นปี 2566
อินโดรามา เวนเจอร์ส ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายการใช้เทคโนโลยีของ Cabios ไปยังโรงงาน PET แห่งอื่นๆ ของบริษัทฯ เพื่อการพัฒนาต่อยอดในอนาคต โดยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของโรงงานแห่งแรกในประเทศฝรั่งเศสนี้
ตามข้อตกลงที่ได้ลงนาม บริษัท Carbios ซึ่งยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานเมื่อเดือนธันวาคม 2565 จะได้รับการจัดสรรพื้นที่ขนาด 13 เฮกตาร์ จากพื้นที่โรงงาน PET ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่ดำเนินการอยู่ในเมือง Longlaville และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตฯ ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 และตั้งเป้าเริ่มดำเนินการทดสอบในปี 2568 ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึงสองเท่าบนพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลผลิตจากการนำสารเริ่มต้นมาโพลิเมอไรซ์ใหม่ (repolymerization) ได้อย่างแน่นอน และบริษัททั้งสองจะร่วมกันจัดหาวัตถุดิบต่อไป
เงินลงทุนทั้งหมดสำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้ได้รับการพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 230 ล้านยูโร โดยคำนึงถึงผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อล่าสุด สำหรับต้นทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากการระดมทุนของอินโดรามา เวนเจอร์ส และการให้ความช่วยเหลือที่รัฐบาลประเทศฝรั่งเศสและแคว้นกร็องแต็สต์เอื้อเฟื้อต่อโครงการ ตลอดจนการเพิ่มทุนของบริษัทร่วมทุนโดย Carbios ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินสดในปัจจุบันของ Carbios (มูลค่า 86 ล้านยูโร ณ วันที่ 30 เมษายน 2566) ทั้งนี้ Carbios อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกทางการเงินที่ดีที่สุดที่มีอยู่เพื่อใช้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้ โดยจะเลือกแนวทางและช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดตามเงื่อนไขของตลาด
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ 2030 ของอินโดรามา เวนเจอร์ส เพื่อต่อยอดความเป็นผู้นำในฐานะบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (Environment, Social, and Governance: ESG) ได้แก่ งบประมาณลงทุนจำนวน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มกำลังในการรีไซเคิลขวด PET เป็น 50,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2568 และ 100,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อินโดรามา เวนเจอร์ส ในฐานะผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลที่ใช้ในการผลิตขวดเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังลงทุนในเทคโนโลยีรีไซเคิลใหม่ๆ รวมทั้งการรีไซเคิลขั้นสูง (advanced recycling) เพิ่มเติมจากการขยายโรงงานของบริษัทฯ ทั่วโลกที่ดำเนินการรีไซเคิลด้วยเครื่องจักร ซึ่งรวมถึงสองแห่งในประเทศฝรั่งเศส
Carbios ได้พัฒนาเทคโนโลยีนำสมัยในการทำให้โพลิเมอร์ของพลาสติกที่เคยบรรจุอาหารแล้วแตกเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ด้วยเอนไซม์ ซึ่งช่วยให้สามารถรีไซเคิลพลาสติก PET และสิ่งทอใช้งานแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องใช้ตัวทำละลาย โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการรีไซเคิลมีคุณภาพเทียบเท่ากับพลาสติก PET ที่ผลิตใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ Carbios มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำในการรีไซเคิล PET ขั้นสูง ภายในปี 2578 หลังจากประสบความสำเร็จในการก่อสร้างโรงงานต้นแบบที่กำลังดำเนินงานอยู่ ณ เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส Carbios ได้ทำงานร่วมกับอินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปีเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์และทางเทคนิคของการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
โดยโรงงานรีไซเคิล PET เชิงชีวภาพด้วยเอนไซม์ในระดับอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก ณ เมือง Longlaville นี้จะมีความสามารถในการรีไซเคิล PET ที่ผ่านการใช้งานแล้วประมาณ 50,000 ตันต่อปี ซึ่งรวมถึงขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้โดยการรีไซเคิลด้วยเครื่องจักร เทียบเท่ากับขวด PET ชนิดสีจำนวน 2 พันล้านขวด หรือถาดอาหารที่ผลิตจาก PET จำนวน 2.5 พันล้านชิ้น
นายยาช โลเฮีย ประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เรารู้สึกดีใจในผลลัพธ์เชิงบวกจากการตรวจสอบวิเคราะห์ที่มีต่อความสมเหตุสมผลทางเทคนิคในเทคโนโลยีของ Cabios ทีมของเราได้ดำเนินการมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าการพัฒนานวัตกรรมนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโซลูชั่นสำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนของพลาสติก PET และสิ่งทอ และเราจะพิจารณาขยายการใช้เทคโนโลยีของ Carbios ไปยังโรงงานแห่งอื่นๆ ของบริษัททั่วโลก เพื่อการพัฒนาต่อยอดในอนาคต โดยขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการดำเนินงานของโครงการที่เมือง Longlaville นี้”
Emmanuel Ladent ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Carbios กล่าวว่า “ถ้อยแถลงในวันนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในความร่วมมือของเรากับอินโดรามา เวนเจอร์ส และนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโรงงานรีไซเคิล PET เชิงชีวภาพเต็มรูปแบบแห่งแรกด้วยกัน โดยการตรวจสอบวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ดำเนินการร่วมกันกับอินโดรามา เวนเจอร์ส ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีสุดล้ำของ Cabios ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะนำพลาสติกและสิ่งทอเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน โรงงานต้นแบบแห่งแรกของเราที่เมือง Longlaville เป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ของเราทั่วโลก เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นผู้นำในการรีไซเคิล PET ขั้นสูง”