กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ ร่วมกับ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP: United Nations Environment Programme) เชิญชวนทุกคนร่วมกันเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับ กลุ่มเซ็นทรัล ในแคมเปญ “Love the Earth” (เลิฟ ดิ เอิร์ธ) ภายใต้ธีม Beat Plastic Pollution ลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากพลาสติก
พร้อมมุ่งนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ส่งเสริมด้านความยั่งยืน ผ่าน กิจกรรม World Environment Day ในรูปแบบ Carbon Neutral พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ เปลี่ยนขวดพลาสติกให้เป็นมูลค่า การให้ของขวัญเป็นต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า การวางทิศทางและนโยบายในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ปัญหาด้านพลาสติกของโลกสะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของขยะพลาสติกที่ยังคงเป็นปัญหาหลักและส่งผลกระทบต่อระบบของโลกใบนี้มาโดยตลอด กลุ่มเซ็นทรัล และภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ได้ยกระดับความตระหนักและสร้างแรงกระตุ้นให้มีการลงมือปฏิบัติเพื่อลดภาวะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่มาจากพลาสติกอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการลงมือทำผ่านการดำเนินโครงการและการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) ผ่านวิธีการรับมือ การวางทิศทางและนโยบายในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนโยบาย วิธีการรับมือ และเป้าหมาย มีดังนี้
1.นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการแก้ปัญหาการเพิ่มขึ้นของขยะพลาสติก
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ (CRC) เน้นไปที่ 3 ประเด็นสำคัญคือ การลดขยะ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการรวบรวมส่งรีไซเคิล
– การลดขยะ เริ่มจากการลดการใช้ถุงพลาสติก เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินโครงการ say no to Plastic bag และรณรงค์ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
– การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคหรือลูกค้า มีความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์ด้านข้อมูลผู้บริโภคบนตราฉลากสินค้าและมาตรฐานรับรองต่างๆ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงได้ง่ายๆ
– การรีไซเคิล ได้มีการดำเนินโครงการคัดแยกรวบรวมวัสดุรีไซเคิล และเริ่มทดสอบโครงการเก็บรวบรวมขยะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และสามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าจากขวดพลาสติกได้ 3 ประเภท กระเป๋าผ้า, ผ้าห่ม และเสื้อกั๊ก ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังให้ความสำคัญต่อของการจัดการขยะอาหาร ได้ดำเนินการโครงการเพื่อลดขยะอาหาร อาทิ การลดราคาก่อนสินค้าหมดอายุ การบริจาคให้กลุ่มเปราะบาง และการเก็บรวบรวมขยะอาหารจากศูนย์การค้าเพื่อทำปุ๋ยหมักชุมชนและก๊าซชีวภาพ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ มุ่งพัฒนาโครงการควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ภายใต้เจตจำนงของ แบรนด์ Imagining better futures for all บริษัทฯ คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมาบูรณาการร่วมกันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดปริมาณขยะที่ส่งไปหลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ ขยายผลจาก โครงการ Journey to Zero สู่โครงการ Journey to Net Zero ตามแผนระยะยาวในการมุ่งสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวในการลดสัดส่วนขยะฝังกลบลงให้ได้ร้อยละ 50 ของปริมาณขยะทั้งหมดที่ขนออกจากองค์กร ภายใน ปี 2568 และเป้าหมายระยะสั้นในการลดสัดส่วนขยะฝังกลบให้ได้ ร้อยละ 35 ของปริมาณขยะทั้งหมดในปี 2566
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) มีการวางแนวนโยบายการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ กำหนดแนวปฎิบัติให้กับทุกโรงแรม เพื่อให้มีการคัดแยกขยะก่อนนำขยะกำพร้าส่งไปยังหลุมฝังกลบตามหลักการลดขยะจากต้นทาง (Waste Minimization) คือการ -Prevention ปฎิเสธการใช้ -Reduce หากเลี่ยงการใช้ไม่ได้ก็ลดการใช้ -Reuse และมีใช้ซ้ำหรือนำกลับมาใช้ใหม่ – Recycle สุดท้ายคือการนำขยะที่รีไซเคิลได้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล อีกทั้งมีการบันทึกข้อมูลขยะประเภทต่างๆ ลงระบบการจัดเก็บข้อมูลด้านความยั่งยืน โดยแต่ละโรงแรมจะต้องแยกขยะให้ได้ 4 ประเภทหลัก คือ 1) ขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษลัง พลาสติก อะลูมิเนียม แก้ว น้ำมันใช้แล้ว 2) ขยะอินทรีย์ ประเภท เศษอาหาร เศษผัก เปลือกผลไม้ 3) ขยะทั่วไป 4) ขยะอันตราย เช่น หลอดไฟ แบตเตอรี่ ถังสารเคมีต่างๆ
2.ผลสำเร็จจากการดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทในเครือ ดังนี้
– บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างมีนัยสำคัญ การเพิ่มความพร้อมของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้มีผลที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำการเลือกซื้อที่ยั่งยืนได้มากขึ้น และสร้างความรับผิดชอบและความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า บริษัทเซ็นทรัลรีเทลฯ มีความมุ่งมั่นที่จะขยายผล สร้างความคืบหน้าต่อเนื่องสู่อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยโครงการผลิตภัณฑ์แปรรูปจากขยะพลาสติก (Upcycling Product) สามารถลดขยะพลาสติกได้มากถึง 67,628 ขวด ริเริ่มเป็นโครงการ Samui Zero Waste Model ซึ่งช่วยลดขยะอินทรีย์ได้ 7 ตัน เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณ 105.51 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
– บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มโครงการ Journey to Zero อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2563 จากผลการดำเนินแผนงาน Journey to Zero – ร้านค้า และ พันธมิตรอื่น ๆ โครงการแยกขยะอินทรีย์ ร่วมกับเทศบาล เกษตรกร และโครงการ ไม่เทรวม ของ กทม. เมื่อปีที่แล้วลดขยะอินทรีย์ไปฝังกลบ ได้กว่า 6,000 ตัน รวมขยะรีไซเคิล และ แปลงเป็น “เชื้อเพลิงขยะ” (Refuse Derived Fuel: RDF) ได้ทั้งหมด 18,182 ตัน
– บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) ได้มีการยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เริ่มจาก ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่ให้บริการในห้องพัก เช่น สบู่ แชมพู จากขวดพลาสติกเล็กๆ มาเป็นขวดหัวปั๊มที่ใช้ซ้ำได้ การยกเลิกถุงพลาสติกใส่ผ้าส่งซักในห้องพัก รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และเราได้มีการตั้งเป้าหมายในการยกเลิกผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งสำหรับแขกในโรงแรมให้ได้ 100% ภายในปี 2025 อีกด้วย นอกจากนี้ในวัน World Environment Day ประจำปี 2023 ทางโรงแรมได้จัดทำโครงการปลา POP ‘Plastic Only Please!’ เพื่อเป็นการจัดการขยะและลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง โดยการเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันคัดแยกขยะพลาสติกนำมาใส่ในตัวปลา POP โดยแคมเปญปลา POP นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2023
3.ทิศทางและเป้าหมายในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน)
– บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ในการบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทฯ ได้พัฒนากลยุทธ์ ReNEW ซึ่งประกอบด้วยแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินธุรกิจ เริ่มจากการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคาจากโซล่าเซลล์ การขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้รถยนต์ไฟฟ้า การลดการใช้ทรัพยากรและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน และการบริหารจัดการของเสีย การส่งเสริมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการกำหนดเป้าหมายให้มีการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในการดำเนินธุรกิจ และการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว 50,000 ไร่ ภายในปี 2030 เพื่อการกักเก็บคาร์บอน โดยเรามีเป้าหมายที่จะลดรอยเท้าคาร์บอนลงอย่างมีนัยสำคัญและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ
– บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้วางเป้าหมายในการไปให้ถึง Net Zero จะต้องมีวิทยาศาสตร์มารองรับว่าทำได้จริง จึงมุ่งที่จะนำ Science Based Target Setting คือการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีส บนพื้นฐานทาง Climate Science ซึ่งมีเป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไว้ให้ไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และมุ่งสู่การจำกัดอุณหภูมิฯ ไว้ให้ไม่เกิน 5 องศาเซลเซียสมาปรับใช้ ซึ่งบริษัทฯ กำลังศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมนับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องครอบคลุมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
– บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) กำหนดเป้าหมายการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมครอบคลุมเรื่องการบริหารจัดการการใช้พลังงาน การใช้น้ำ การจัดการขยะ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งมั่นลดผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุดและสร้างผลกระทบเชิงบวกกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด โดยกำหนดเป้าหมายระยะแรก ปี 2020-2029 ระยะเวลา 10 ปี ตั้งเป้าลดการใช้พลังงาน ลดการใช้น้ำ ลดปริมาณขยะไปหลุมฝังกลบ และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 20 เทียบจากปีฐาน 2019 ดำเนินการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ นำพลังงานความร้อนที่ปล่อยทิ้งกลับมาใช้ในระบบผลิตน้ำร้อนเพื่อลดการใช้พลังงาน บริหารจัดการน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วนำกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้เพื่อประหยัดการใช้น้ำ บริหารจัดการขยะและของเสียเพื่อลดการนำขยะไปยังหลุมฝังกลบ ดำเนินการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ ติดตั้งเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์เพื่อแปลงเศษอาหารให้เป็นสารปรับปรุงดินสำหรับบำรุงต้นไม้และแจกจ่ายให้กับประชาชนรอบพื้นที่โรงแรม และได้ก๊าชชีวภาพใช้เป็นก๊าซหุงต้มสำหรับปรุงอาหารในโรงแรม เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกป่าอย่างน้อย 100,000 ต้นภายในในปี 2029
เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day 2023) กลุ่มเซ็นทรัล จัดกิจกรรม World Environment Day ในรูปแบบ Carbon Neutral มุ่งสู่เป้าหมาย Journey to Zero โดยเริ่มจากคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการจัดงาน ที่ไม่ส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การ Reuse วัสดุภายในงาน จนถึงเมื่อใช้งานแล้ว จะนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำไป Recycle อย่างถูกวิธี รวมไปถึงการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่การใช้ไฟฟ้า การเดินทางของผู้มาร่วมงาน อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนขยะที่เกิดขึ้นภายในงาน และจะทำการชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เท่ากับศูนย์ เพื่อเป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ องค์กรค้าปลีกและบริการสีเขียวเต็มรูปแบบ เดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2050 พันธกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมทุกมิติแห่งแรกของไทย ปรับและเปลี่ยนเพื่อโลกสีเขียวอย่างยั่งยืน