นับเป็นการเขย่าวงการตู้จำหน่ายสินค้าก็ว่าได้ เมื่อแบรนด์ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Asahi (อาซาฮี) นำร่องติดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ (Vending machine) ที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกจากชั้นบรรยากาศได้
Asahi Soft Drinks Co., Ltd. ภายใต้ Asahi Group Holdings, Ltd. ได้เริ่มนำร่องโครงการทดลองติดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ ที่สามารถดูดซับ CO2 ได้ โดยจะเริ่มติดตั้งจำนวน 30 ตู้ ในภูมิภาคคันโตและคันไซ ในเดือนมิถุนายน 2566 นี้ ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมต่อไปในอนาคต โดยคาดว่าตู้แต่ละเครื่องจะมีความสามารถในการลดคาร์บอนลงได้ราว 60 กิโลคาร์บอนเทียบเท่า หรือราว 20% ของปริมาณ CO2 ทั้งหมดที่เกิดจากการะบวนการผลิตสินค้าในแต่ละปี
ทั้งนี้ ตู้สินค้าหยอดเหรียญดังกล่าวได้รับการออกแบบให้มีการนำวัสดุที่เป็นผงสีขาว ซึ่งมีส่วนผสมของแร่ธาตุแคลเซียมหลากหลายชนิด และมีคุณสมบัติในการดูดซับ CO2 ได้ เมื่อวัสดุดังกล่าวมีการดูดซับ CO2 ไว้ได้ในปริมาณมากพอแล้ว จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ในหลากหลายด้าน เช่น สามารถนำไปทำปุ๋ย ส่วนผสมของคอนกรีต นำไปเลี้ยงสาหร่ายที่ก้นทะเล หรือใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ในอนาคต โดยจะพยายามพัฒนาวัสดุที่มีความสามารถในการดูดซับ CO2 ให้สูงได้มากขึ้นต่อไป
แนวคิดในการพัฒนาตู้หยอดเหรียญที่สามารถดูดซับ CO2 ได้ของอาซาฮีในคร้ังนี้ ถือเป็นหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมด้านความยั่งยืนที่แบรนด์พยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่องเสมอมา พร้อมทั้งยังเป็นการเริ่มต้นสร้าง ‘ป่าในเมือง’ เนื่องจากทั่วประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วยตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติหลากหลายชนิดตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนม ของเล่น ไปจนถึงไข่ปลาคาเวียร์
จากข้อมูลของ Japan Vending System Manufacturers Association ระบุว่า ญี่ปุ่นมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติประมาณ 4 ล้านเครื่อง ลดลงจากกว่า 5 ล้านเครื่องเมื่อทศวรรษที่แล้ว ขณะที่การทำงานของเครื่องมีการใช้พลังงานจำนวนมาก เนื่องจากต้องใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่กลุ่มผู้จำหน่ายมีความพยายามในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการทำงานของเครื่องจักรลงกว่า 60% ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมสุดเจ๋งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Asahi’s 100 YEARS GIFT “bring excitement and smiles to future generations” (นำความตื่นเต้นและรอยยิ้มสู่คนรุ่นต่อไป) ที่มีเป้าหมายในการสร้างโลกที่ยั่งยืนขึ้น 100 ปีจากนี้ไป โดยอาซาฮีมีแผนลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการตั้งเป้าลดการปล่อย CO2 เพื่อให้การดำเนินงานมีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ภายในปี 2593