จำนวนกังหันลมที่เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงได้เป็นครั้งแรกในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้
โดยจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่สหราชอาณาจักรสามารถผลิตได้ใน 3 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 24 TWh (1 terawatt-hour (TWh) = 1 ,000 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงs (kWh) ) ซึ่งพลังงานที่ผลิตได้นั้น สามารถนำไปชาร์จรถยนต์เทสลา Model Y ได้มากกว่า 300 ล้านคันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ไฟฟ้าเกือบหนึ่งในสาม (32.4%) ของสหราชอาณาจักร จัดหาจากพลังงานลมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 แซงหน้าก๊าซธรรรมชาติที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 31.7% และนับเป็นครั้งแรกที่พลังงานลมมีส่วนแบ่งพลังงานมากที่สุดรายไตรมาส ในประวัติศาสตร์ของโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ
ผลการวิจัยรายไตรมาส จากรายงาน Drax Electric Insights โดยนักวิชาการจาก Imperial College London ระบุว่า ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ กังหันลมทั้งหมดของสหราชอาณาจักร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 24 TWh หรือ 24,000 kWh ซึ่งเพียงพอสำหรับการชาร์จ Tesla Model Y มากกว่า 300 ล้านคัน และมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3% ขณะที่การผลิตจากก๊าซธรรมชาติลดลง 5%
ทั้งนี้ยังพบว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 เกือบ 42% ของสหราชอาณาจักรมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (ลม แสงอาทิตย์ ชีวมวล และพลังน้ำ) ขณะที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 33% ส่วนที่เหลือมาจากการนำเข้าจากต่างประเทศและจากแหล่งอื่นๆ
Dr. Iain Staffell จาก Imperial College London ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงาน Drax Electric Insights ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนความสำเร็จในการปฏิวัติการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของสหราชอาณาจักร นำมาซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีความสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้เลิกใช้ถ่านหินไปเกือบหมดแล้ว หลังจากพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อให้เกิดมลพิษมากที่สุดเป็นเวลากว่าศตวรรษ ในการขับเคลื่อนประเทศของเรา ยังคงมีอุปสรรคมากมายในการเข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้าที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างสมบูรณ์ แต่การเลิกใช้ก๊าซธรรมชาติจะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และสะท้อนได้ถึงความสำเร็จที่เกิดจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานสะอาด”