เทรนด์ที่มาแรงของกระเป๋าเป้สไตล์ Randoseru (รังโดเซรุ) หรือกระเป๋าเป้รูปทรงสี่เหลี่ยม สำหรับใช้บรรจุหนังสือและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับไปโรงเรียน ของเด็กนักเรียนชั้นประถมญี่ปุ่นในปีนี้ คือ กระเป๋าที่มีน้ำหนักเบา
โดยกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบากว่า 1 กิโลกรัม ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เด็กๆ จำเป็นต้องพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ไปโรงเรียนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากหนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ทำให้เด็กๆ และผู้ปกครองมักมองหากระเป๋าที่มีน้ำหนักเบามาใช้งาน โดยเฉพาะกระเป๋าที่ทำมาจากหนังสังเคราะห์จากพลาสติกชีวภาพ หรือพลาสติกรีไซเคิล เช่น จากเปลือกแอปเปิ้ล ขวดพลาสติกรีไซเคิล รวมทั้งแหอวนเก่าที่ชาวประมงไม่ได้ใช้งานแล้ว ซึ่งในบางเมืองอย่างฮอกไกโด ที่อาชีพประมงรุ่งเรือง มีซากแหอวนที่ถูกทิ้งมากถึงปีละ 19 ตัน มากพอที่จะนำมาเป็นไนลอนที่ใช้ผลิตกระเป๋าได้
รังโดเซรุที่ทำมาจากวัสดุทดแทนเหล่านี้มีน้ำหนักเบาอย่างมาก เมื่อเทียบกับการใช้หนังทั่วไปมาทำเป็นกระเป๋านักเรียน ทำให้ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ผ่านมาร้านค้าปลีกหลายแห่ง ได้เปิดตัวกระเป๋ารังโดเซรุ โดยมีจุดขายจากวัสดุทดแทนที่นอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังมีน้ำหนักที่เบาลงอย่างมาก ซึ่งดีต่อสรีระและสุขภาพระยะยาวของเด็กๆ ด้วย
เช่น ยักษ์ใหญ่อย่าง Aeon เปิดตัวกระเป๋าที่ผลิตจากขวดพลาสติกโพลีเอสเตอร์ที่มีน้ำหนักเพียง 960 กรัม ขณะที่ราคาก็ถูกลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับกระเป๋าหนังแท้ โดยมีราคาราว 28,000 เยน เทียบกับหนังแท้ที่ราคา 60,000 -70,000 เยน หรือร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในครัวเรือน Nitori ได้เปิดตัวกระเป๋าเป้ผ้ารังโดเซรุรุ่นแรก ที่มีน้ำหนักเพียง 840 กรัม ในราคา 19,900 เยน ซึ่งเบากว่าหนังทั่วไปถึง 30% และยังมีความจุมากกว่าด้วย
ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองและกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นประถม 1-3 ในช่วงเดือนตุลาคม 2565โดย Footmark Corp. ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าในโรงเรียน พบว่า นักเรียนประมาณ 90% ให้ความเห็นว่า กระเป็านักเรียนที่พวกเขาใช้อยู่นั้นหนักเกินไป โดยมีข้อมูลว่าเป้สะพายหลังของนักเรียนโดยเฉลี่ยเมื่อใส่ของจนเต็มแล้วจะมีน้ำหนักถึง 4.28 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเพิ่มมากขึ้นหลังจากเด็กๆ เริ่มพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาโรงเรียนด้วย