กลุ่มผู้บริโภควีแกนหรืออาหารมังสวิรัติ มีสัดส่วนราว 18% ของประชากรโลก หรือประมาณ 1,260 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 12% ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ประกอบกับผู้บริโภคกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดมีการขยายตัวและแข่งขันกันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความนิยมอาหารมังสวิรัติเริ่มขยายตัว ทำให้กลุ่มมังสวิรัติ หรือผู้บริโภควีแกนในจีนมีมากกว่า 50 ล้านคน หรือมีสัดส่วน 3.57% ของประชากรจีนทั้งประเทศ
โดยเหตุผลในการเป็นกลุ่มวีแกน ส่วนใหญ่เลือกรับประทานเพราะต้องการดูแลสุขภาพ จำนวน 67.9% ตามมาด้วยเหตุผลทางด้านสิ่งแวดล้อมและไม่ต้องการเบียดเบียนสัตว์ 13.5% รวมทั้งเหตุผลทางศาสนา 8.7% ตามลำดับ
ขณะที่ตลาดมังสวิรัติ รวมทั้ง Plant-based ในจีนเติบโตขึ้นจากในอดีตอย่างมาก โดยพบข้อมูลว่า จำนวนร้านอาหารดั้งเดิมในจีน ที่มีมากกว่า 5 ล้านแห่ง จะมีร้านอาหารที่เป็นมังสวิรัติประมาณ 3,000 แห่ง โดยในกรุงปักกิ่ง มีร้านอาหารดั้งเดิมราว 60,000 แห่ง และจะเป็นร้านมังสวิรัติจำนวน 130 แห่ง ซึ่งปัจจุบันอาจจะยังมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่วนใหญ่ยังกระจายตามภูมิภาคหรือเมืองใหญ่ๆ แต่อยู่ในทิศทางเติบโตต่อเนื่อง มีกลุ่มผู้บริโภคตั้งแต่ตลาดระดับล่างถึงกลาง ไปจนถึงไฮเอนด์ โดยตลาดขนาดใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มกลางถึงล่าง ตามข้อมูลต่อไปนี้
ผู้บริโภคราว 66% มีการบริโภคต่อหัวต่ำกว่า 70 หยวน หรือราว 350 บาท จากกลุ่มร้านอาหารมังสวิรัติทั่วไป รองลงมาคือ 23% มีการบริโภคต่อหัว 71 -120 หยวน หรือประมาณ 355 – 600 บาท ขณะที่ร้านอาหารในกลุ่มไฮเอนด์ มีสัดส่วนการบริโภค 11% ด้วยราคาเฉลี่ยต่อหัว 120 หยวน หรือ 600 บาทขึ้นไป และมีสัดส่วนราว 4% ที่บริโภคเฉลี่ยมากกว่า 200 หยวน หรือ 1,000 บาทขึ้นไป โดยธุรกิจร้านอาหารมังสวิรัติขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในจีน เช่น บริษัท Whole Perfect Food และบริษัท Sotia เป็นต้น
ทั้งนี้ จากรายงานคาดการณ์การพัฒนาและศึกษาตลาดอุตสาหกรรมอาหารมังสวิรัติจีนปี ค.ศ. 2022 – 2027 เปิดเผยว่า ปัจจุบันยักษ์ใหญ่ของวงการอาหารต่างมุ่งเข้าซื้อแบรนด์อาหารมังสวิรัติหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารมังสวิรัติออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริษัท Tyson Foods Inc. ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก ไม่เพียงแต่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีเนื้อสัตว์ทางเลือก แต่ยังร่วมมือกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ ในการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับเนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก และเนื้อปลาเทียม ซึ่งเป็นอาหารมังสวิรัติที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้
อาหารมังสวิรัติถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และดีต่อสุขภาพ ทำให้ตลาดมีชีวิตชีวาและมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก ประกอบกับเริ่มมีการยอมรับเนื้อสัตว์จากพืชมากขึ้นในตลาด ยิ่งทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์มังสวิรัติให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสังคมสมัยใหม่มีผู้รับประทานมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเป็นคนหนุ่มสาว เนื่องจากการรับประทานอาหารมังสวิรัติไม่ได้กำจัดอยู่แค่รับประทานตามความเชื่อของศาสนาหรือตามคำสอนที่ประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาอีกต่อไป แต่การเลือกรับประทานมังสวิรัติส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อสุขภาพ รักษาสิ่งแวดล้อม เคารพชีวิตผู้อื่น และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ จึงทำให้การรับประทานมังสวิรัติได้กลายเป็นวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับกระแสของยุคสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงและได้รับการยอมรับในสังคมมากยิ่งขึ้น
ข้อมูล : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ