กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ของสเปน ได้ระบุให้บริษัทผู้ผลิตบุหรี่มีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งไว้ตามท้องถนนภายในประเทศ พร้อมระบุว่า ผู้ผลิตมีหน้าที่ต้องเตือนไม่ให้ผู้บริโภคทิ้งก้นบุหรี่ในที่สาธารณะด้วย
โดยแต่ละปีจะพบก้นบุหรี่หลายล้านชิ้นถูกทิ้งอยู่ตามชายหาดและท้องถนน ขณะที่การศึกษา ‘zero Waste Society’ Rezero โดย Catalan ได้ทำการประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดการในแต่ละปีสูงถึง 12-21 ยูโรต่อคน หรือรวมๆ แล้วจะสูงถึงปีละกว่า 1 พันล้านยูโร ขณะที่ทางสเปนเองก็มีความพยายามในการลดจำนวนการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดให้ชายหาด 525 แห่ง เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ ในปี 2564
ตามรายงานยังไม่มีข้อมูลด้านค่าใช้จ่ายที่ทางการสเปนจะเรียกเก็บเพิ่มจากทางผู้ผลิต รวมทั้งแนวทางหรือวิธีการในการจัดเก็บ แต่มีความเชื่อว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้อาจจะถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจจะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นแต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจเป็นแรงกระตุ้นให้มีการเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ด้าน Ocean Conservancy ระบุว่า ขยะก้นบุหรี่ยังเป็นมลพิษที่พบได้บ่อยที่สุดตามชายหาดและในทะเล และมีจำนวนมากกว่าถุงหรือขวดพลาสติก โดยมีบุหรี่กว่า 5 พันล้านมวน ที่ถูกทิ้งลงทะเลในแต่ละปี ซึ่งต้องใช้เวลาย่อยสลายมากกว่า 10 ปี ขณะที่ในกระบวนการย่อยสลายก็ยังปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลและสิ่งแวดล้อม
สำหรับกฎระเบียบฉบับใหม่ของสเปนในคร้ังนี้ ได้เริ่มประกาศใช้แล้วเมื่อ 6 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมไปถึงการห้ามใช้ Single-use Plastic หลายรายการ เช่น ช้อนส้อม หลอดพลาสติก คอนตอนบัด ถ้วยโฟม เพื่อต้องการลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ตามแนวทางในการลดการสร้างขยะพลาสติกและส่งเสริมการรีไซเคิลของสหภาพยุโรป