ช่วงปีที่ผ่านมา ความกังวลต่อปัญหาสภาพอากาศเป็นหัวข้อสำคัญที่ทั่วโลกต่างพูดถึง โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เกิดคำศัพท์ หรือวลีใหม่ๆ ในแวดวง Climate Crisis ที่เกี่ยวข้องหรือสะท้อนถึงวิกฤตโลกร้อนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ความวิตกกังวลด้านสิ่งแวดล้อมไปจนถึงสภาพอากาศที่รุนแรง
EURONEWS ได้หยิบยก 6 คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ซึ่งสะท้อนได้ทั้งบริบททางวัฒนธรรมและสังคม รวมทั้งชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งประเด็นที่โลกให้ความสนใจผ่านภาษาของแต่ละพื้นที่ ซึ่งประกอบไปด้วย
ซึ่งทาง EURONEWS ได้หยิบยก 6 คำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ซึ่งสะท้อนได้ทั้งบริบททางวัฒนธรรมและสังคม รวมทั้งชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งประเด็นที่โลกให้ความสนใจผ่านภาษาของแต่ละพื้นที่ ซึ่งประกอบไปด้วย
6. La sobriété (ฝรั่งเศส)
คำภาษาฝรั่งเศสนี้ แปลได้ว่า ‘ความยับยั้งชั่งใจ’ (restraint) ในที่นี้หมายถึงการมีไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนโยบายทางเลือก
‘sobriété’ เป็นชื่อมาตรการที่ทางฝรั่งเศสใช้เพื่อลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 10% ภายในปี 2567 ผ่านข้อกำหนดต่างๆ เช่น การจำกัดอุณหภูมิของเครื่องทำความร้อนภายในบ้านและออฟฟิศไว้ที่ 19 ° C หรือห้ามเปิดไฟโฆษณาต่างๆ ไว้ตอลดทั้งคืน เป็นต้นซึ่งความนิยมของคำนี้มาจาก Pierre Rabhi (ปิแอร์ ราบี) นักปรัชญาและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวฝรั่งเศส-แอลจีเรีย ผู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเรียบง่าย และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกระบบการทำเกษตรแบบออแกนิสก์เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงานเพื่อป้องกันปัญหาพลังงานขาดแคลน และเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
5. Ilmastohumpp (ฟินแลนด์)
คำนี้ถูกแปลขึ้นมาจาก ‘climate oompah.’ ซึ่งล้อเลียนถึงการเต้นระบำพื้นเมืองของฟินแลนด์ และดนตรีที่คล้ายกับฟ็อกซ์ทรอต (foxtrot) หรือฮัมปา (humppa)
วลีนี้ถูกใช้เพื่อวิจารณ์กลุ่มคนที่สนับสนุนมาตรการหรือการเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศต่างๆ ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นคำที่นิยมในกลุ่มของคนที่มองว่า นักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากศเหล่านี่กำลังร้องเพลงและเต้นรำโดยไม่คิดอะไร
4. Gretini (อิตาลี)
เป็นอีกหนึ่งคำเชิงลบ ที่สื่อความหมายถึง ‘สาวกของเกรตา’ หรือ Greta Thunberg นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน ซึ่งล้อเลียนมาจาก คำว่า cretino (cretinuous, งี่เง่า, โง่) เพื่อสื่อความหมายให้พ้องกัน แต่ใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Greta Thunberg เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2018 หลังจากเริ่มหยุดเรียนในทุกวันศุกร์ เพื่อส่งสัญญาณไปยังทางการสวีเดน ในการเคลื่อนไหวด้านการดูแลสภาพอากาศ และกลายเป็นชนวนให้เด็กหลายล้านคนเข้าร่วมการประทัวงทั่วโลก และกลายเป็นประเด็นในหมู่นักวิจารณ์ ซึ่ง Thunberg ได้ตอบโต้กลุ่มนักวิจารณ์ว่ากำลังสร้างแคมเปญให้เกิดความเกลียดชังและการสมรู้ร่วมคิด
3. Oljeskam และ Flyskam (นอร์เวย์)
ศัพท์ภาษานอร์เวย์คำนี้ มาจากคำว่า ‘oil shame’ และ ‘flight shame’ หรือความน่าละอายของน้ำมันและการบินตามลำดับ
โดยนอร์เวย์ เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานสะอาด โดย 95% ของการผลิตไฟฟ้ามาจากพลังงานน้ำ และมีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา มีการส่งออกน้ำมันดิบไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปถึงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
Oil shame สะท้อนถึงความรู้สึกผิดของชาวนอร์เวย์บางกลุ่ม เมื่อนึกถึงปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดขึ้นตามมา ส่วน Flight shame เป็นคำที่เริ่มถูกพูดถึงอย่างมาก จาก Greta Thunberg ที่ออกมาประกาศต่อสาธารณชนว่าจะหยุดการเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อลดการสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากตัวเอง ซึ่งปัจจุบันได้ขยายวงกว้างอย่างแพร่หลายไปทั่วสแกนดิเนเวีย
2. Colopsistas และ Tecno-optimistas (สเปน)
ผู้คนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องหาโซลูชันพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาวิกฤตสภาพอากาศ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงว่าควรเป็นแนวทางใดกันแน่
ซึ่งนักรณรงค์บางกลุ่มมองว่า การลดการบริโภคลงเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถป้องกันการล่มสลายทางสภาพภูมิอากาศ เช่น การลดใช้พลังงานฟอสซิล การลดบริโภคเนื้อสัตว์ รวมทั้งการเลิกบริโภคเกินความจำเป็น เช่น การสนับสนุนฟาสต์แฟชั่น
ในสเปน จะเรียกกลุ่มที่โต้เถียงประเด็นความเชื่อนี้ว่า ‘Colopsistas’ และจะมีอีกคำหนึ่งมักจะมาคู่กัน คือ ’decrecentistas‘ ซึ่งหมายถึง ผู้ที่มีความเชื่อว่า การลดการบริโภคจะเป็นหนทางหลักในการแก้ปัญหาสภาพอากาศ
ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งจะเชื่อแตกต่างออกไป โดยเห็นว่าเรื่องของเทคโนโลยีคือ วิธีการหลักในการแก้ปัญหา และจะถูกเรียกว่า ‘Tecno-optimistas’ เช่น การพัฒนาพลังงานสะอาด หรือแบตเตอรี่ไฮโดรเจน ซึ่งจะเป็นโซลูชันที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่าโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยบริษัท Oil & Gas สามารถอธิบายถึงความเป็น Tecno-optimistas ในฐานะยักษ์ใหญ่ด้านเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่มักนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การดักจับคาร์บอนเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่คำเหล่านี้มักจะถูกใช้เพื่อวิวาทะโต้แย้งกับฝ่ายตรงข้าม ขณะที่คนส่วนใหญ่ทั่วไป มีความเชื่อว่า ควรใช้ทั้ง 2 แนวทาง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน
1. Depresja klimatyczna (โปแลนด์)
ในภาษาอังกฤษจะมีคำว่า‘eco-anxiety’ หรือ ความกังวลต่อวิกฤตสภาพอากาศ จากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ จนเกิดเป็นความวิตกกังวลทางด้านจิตใจ เพราะกลัวว่าโลกจะมาถึงวาระแล้ว ซึ่งตรงกับภาษาโปแลนด์ว่า Depresja klimatyczna ที่อาจหมายถึงการเกิดภาวะซึมเศร้าจากสภาพอากาศ (climate depression)
คำนี้สามารถสะท้อนถึงความจริงที่ว่า ผู้คนทุกคนสามารถได้รับผลกระทบร้ายแรงจากปัญหาวิกฤตสภาพอากาศได้ โดยเฉพาะบางคนที่ไม่ให้ความสำคัญในประเด็นเหล่านี้เนื่องจากยังไม่ได้รับผลกระทบแบบจับต้องได้จากวิกฤตสภาพอากาศที่เกิดขึ้น และยังมีคำในภาษาอื่นๆ ที่มีความหมายในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ เช่น ‘solastalgia’ หรือ ‘ecoansiedad’ ในภาษาสเปน ที่มีความหมายถึง ความเครียดที่เกิดขึ้นจากส่ิงแวดล้อม