ข้อมูลจากฝั่งอังกฤษพบว่า แต่ละปีจะพบขยะแพ็กเกจจิ้งพลาสติกจำนวนกว่า 96 ล้านชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากบ้านเรือนเฉลี่ย 66 ชิ้นต่อสัปดาห์ ครึ่งนึงของขยะเหล่านี้จะถูกเผา ขณะที่อีกกว่า 1 ใน 4 ที่เหลือ มักถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ
ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการมีส่วนช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติก Insiya Jafferjee และ Amir Afshar จากบริษัทสตาร์ทอัพด้านแพ็กเกจจิ้งทางเลือก ชื่อว่า Shellworks ซึ่งก่อตั้งในปี 2019 เพื่อคิดหาโซลูชันเกี่ยวกับแพ็กเกจจิ้งพลาสติกที่ผลิตจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ทั้งหมด มาช่วยแก้ pain point ข้างต้น โดยเริ่มบุกเบิกในการสกัดพลาสติกไบโอโพลิเมอร์จากเศษของอาหารทะเล
Insiya Jafferjee ในฐานะซีอีโอของ Shellworks ได้กล่าวในงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดย WIRED Impact ในกรุงลอนดอน ว่า “วิกฤตพลาสติกนับเป็นเรื่องท้าทาย แม้ว่าจะเป็นพลาสติกขนาดเล็ก แต่เมื่อรวมกันมันก็สามารถกลายเป็นจำนวนมหึมาในแต่ละปีได้ ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของ Shellworks ก็เพื่อจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับแพ็กเกจจิ้งพลาสติกที่ถูกทิ้งไปนั่นเอง”
Shellworks ได้พัฒนาวัสดุที่มีชื่อเรียกว่า “Vivomer” ซึ่งถูกผลิตขึ้นจากจุลินทรีย์ที่พบได้เป็นจำนวนมากตามสภาพแวดล้อมในพื้นดินและในทะเล และยังสามารถขึ้นรูปให้เป็นโหลหรือบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงขณะนำไปใช้งาน รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นอื่นๆ
ข้อดีของวัสดุประเภทนี้ก็คือ เมื่อทิ้งบรรจุภัณฑ์เหล่านี้หลังหมดอายุการใช้งาน จุลินทรีย์ประเภทเดียวกันที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมทั้งในดิน หรือในทะเล ก็จะมองเห็นผลิตภัณฑ์นี้เป็นแหล่งอาหารและเข้ามาย่อยสลาบแพ็กเกจจิ้งเหล่านั้นในที่สุด โดยแพ็กเกจจิ้งที่ทำจากวัสดุดังกล่าว ไม่ต้องมีกระบวนการย่อยสลายที่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมพิเศษใดๆ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
เธอยังอ้างอีกว่า แม้ว่า Vivomer จะถูกทิ้งลงถังเหมือนขยะทั่วไป มันก็ยังคงย่อยสลายได้ตามปกติ และยังไม่ก่อไมโครพลาสติกอีกด้วย โดยจะใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายราวๆ 1-5 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของแพกเกจแต่ละชิ้น
Shellworks ก่อตั้งในปี 2019 โดยช่วงแรก ทีมงานต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายเพื่อพิสูจน์แนวคิดดังกล่าว ปัจจุบัน Shellworks มีออร์เดอร์สั่งผลิตในจำนวนที่มีนัยสำคัญ และได้ผลิตแพ็กเกจจิ้งไปแล้วกว่า 300,000 ชิ้น สำหรับผลิตภัณฑ์กว่า 100,000 รายการ โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ผลิตแบรนด์ด้านความงาม ตั้งแต่ครีมทาหน้า เซรั่ม ออยล์บำรุงผิว เป็นต้น
