บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ได้รับคัดเลือกเป็น “หุ้นยั่งยืน” (Thailand Sustainability Investment หรือ THSI) ประจำปี 2565 ประเภทเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยเป็น 1 ใน 22 บริษัทในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งสะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ ESG (Environment, Social, and Governance) โดยมุ่งเน้นการสร้างความเกื้อกูลต่อสังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับเอส แอนด์ พี พร้อมก้าวสู่ปีที่ 50 อย่างยั่งยืน
คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก ‘หุ้นยั่งยืน’ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยตลอดระยะเวลาก้าวสู่ปีที่ 50 ของเอส แอนด์ พี เราดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด ‘คุณภาพ คุณค่า คุณธรรม’ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม และเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรไปพร้อมกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ตอบสนองตามคำมั่นสัญญาของบริษัทที่ว่า ‘Healthier Family, Happier World’
เอส แอนด์ พี มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประเด็น ESG เป็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ.2050
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป (Solar Roof) เลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดจากธรรมชาติในสายการผลิตเบเกอรี่ สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าไปแล้วกว่า 5 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ปัจจุบันกำลังขยายการติดตั้ง ณ สายการผลิตอาหาร ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงมีแผนขยายการติดตั้ง ณ คลังสินค้าในปีหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงจะเริ่มใช้รถขนส่งไฟฟ้า EV ในเดือนธันวาคมนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงในระยะยาว นอกจากนี้ สายการผลิตอาหารเอส แอนด์ พี ยังเข้าร่วมเป็นเครือข่ายโรงงานลดก๊าซเรือนกระจกของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) สอดคล้องตามนโยบายของประเทศไทยที่ได้แสดงเจตจำนงต่อภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
บริษัทฯ ยังคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน อาทิ การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรท้องถิ่น การรังสรรค์เมนูสุขภาพเพื่อผู้บริโภค การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเสียตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และการส่งมอบอาหารสู่ชุมชนที่ขาดแคลนเพื่อยุติความหิวโหยแก่สังคม รวมถึง การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน (Operational Efficiency) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน”
เอส แอนด์ พี มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล พร้อมก้าวสู่ปีที่ 50 เคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป