Japan Today อ้างรายงาน AFP ถึงข้อร้องเรียนต่อบริษัทด้านพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ ที่ให้ข้อมูลเกินจริงต่อสาธารณชน เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณการลงทุนคร้ังใหม่ในธุรกิจ
โดยเนื้อหาระบุว่า มีข้อมูลที่ “คลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ” ระหว่างการสื่อสารกลยุทธ์เกี่ยวกับแผนธุรกิจของ 5 บริษัทเอกชนรายใหญ่ ที่อาจส่งผลต่อโครงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีความจำเป็นในการช่วยลดผลกระทบอันเลวร้ายจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ต้องชะลอออกไป
InfluenceMap กลุ่มเฝ้าสังเกตุการ์ในอุตสาหกรรม วิเคราะห์ว่า เนื้อหาจากธุริจอย่าง BP, Chevron, ExxonMobil, Shell และ TotalEnergies จำนวนกว่า 3,400 ชิ้น ที่ได้เผยแพร่ผ่านรายงานของสื่อสารมวลชน บทสัมภาษณ์ การกล่าวสุนทรพจน์ รวมทั้งจากบัญชีโซเชียลมีเดีย ตลอดปี 2021 นั้น กว่า 60% มักจะเคลมประเด็นเรื่อง “Green” ไว้ด้วย เช่น เป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษ, การเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานที่หลากหลาย, หรือการเพิ่มการใช้พลังงานชีวภาพสำหรับการขับเคลื่อนโซลูชันส์ในเรื่องของพลังงานสะอาด
แต่ข้อความที่ได้บอกต่อสาธารณชนเหล่านี้ กลับตรงข้ามกับแผนการลงทุนในปี 2022 ของทั้ง 5 บริษัท เมื่อพบว่ามีการใช้งบเพียง 12% ที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับการขับเคลื่อนกิจกรรมด้าน low-carbon โดย ผู้จัดการโครงการ Faye Holder ได้กล่าวถึงความแตกต่าง ระหว่างสิ่งที่บริษัทเหล่านี้ได้โฆษณาต่อสาธารณะกับเม็ดเงินลงทุนที่ใช้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าบริษัทเหล่านี้กำลังต่อสู้กับปัญหา climate change อย่างจริงจัง
ซึ่งหากบริษัทเหล่านี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสภาพแวดล้อมตามที่ประกาศไว้จริงก็คงจะเป็นเรื่องที่ยุติธรรม
การเปิดเผยของ InfluenceMap ระบุว่า Shell มีความแตกต่างมากที่สุดระหว่าง Green Talk กับการลงทุนเกี่ยวกับ low-carbon ที่เกิดขึ้นจริง โดยระบุว่า 70% ของการสื่อสารในปีที่ผ่านจะมีการเคลมถึงโปรเจ็กต์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่กลับใช้งบเพียง 10% ในแผนการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนด้าน low-carbon
ด้านตัวแทนจาก Shell ชี้แจง คือ บริษัทได้ลงทุนในกลุ่ม low-carbon energy ไปหลายพันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว โดยเฉพาะการเพิ่มพลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการเร่งขยายการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจใหม่ และจำเป็นต้องมีการชี้แจงต่อลูกค้าถึง lower-carbon solution ที่เราได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้า
เช่นเดียวกับ TotalEnergies ที่การสื่อสารมีการเมนชั่นถึงกรีนโปรเจ็กต์ถึง 62% แต่กลับจัดสรรงบในปี 2022 ในโปรเจ็กต์ด้านคาร์บอนต่ำไว้เพียง 25% โดยทางโฆษกของ TotalEnergies ได้ชี้แจงว่า งบลงทุนของบริษัท 30% ได้จัดให้กับพลังงานที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน (decarbonized energy) ซึ่งสิ่งที่ทางบริษัทได้พูดต่อสาธารณะ สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่บริษัทพลังงานทางเลือกในหลากหลายรูปแบบ (multi-energy company)
ด้าน ExxonMobil spokesman ให้ข้อมูลว่า ยังคงดำเนินแนวทางในการลดการปล่อยมลพิษ เพื่อสามารถบรรลุแผนตามที่วางไว้ในปี 2025 ซึ่งจะรวดเร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 4 ปี โดยไม่มีการชี้แจงจากทาง BP และ Chevron
เนื้อหายังระบุข้อมูลรวมทั้ง 5 บริษัท ใช้งบ 750 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการสื่อสารประเด็นสภาพอากาศในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว ซึ่งถือว่าดีต่อธุรกิจที่จะช่วยให้สามารถดำเนินการลดคาร์บอนในธุรกิจได้ถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐด้วย ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากเงื่อนไขในการลงทุน
ขณะที่บริษัทวิเคราะห์บางแห่ง คาดว่าจะมีการผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้นในปี 2026 พร้อมมองว่าจะได้เห็นการเผาผลาญพลังงานในกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงทางผ่านสู่ Net -zero
ด้าน Gwendoline Delbos-Corfield สมาชิก Green ของรัฐสภายุโรป ให้ข้อมูลถึงผลการวิเคราะห์ในเบื้องต้นว่า บริษัทเหล่านี้มีส่วนร่วมต่อการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของสภาพอากาศ โดยจงใจทำให้ประชาชนเกิดการเข้าใจผิด และเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง