ธนาคารกรุงเทพร่วมออกบูธงาน Sustainability Expo 2022 ชูแนวคิด ‘สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน’ ผลักดันความมุ่งมั่นทั้ง 5 มิติ พร้อมชวนลูกค้าโชว์เคสความสำเร็จ ย้ำจุดยืน ‘เพื่อนคู่คิด’ เติบโตด้วยกันอย่างยั่งยืน
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมออกบูธในงาน Sustainability Expo 2022 ระหว่าง 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 65 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูแนวคิด ‘สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน’ ฉายภาพโครงการ-กิจกรรมเด่น มุ่งหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน 5 มิติ ตอบโจทย์การสร้างสมดุลทั้งการสร้างธุรกิจ ดูแลลูกค้า และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมจับมือลูกค้าเอสเอ็มอีร่วมโชว์เคสความสำเร็จที่จับต้องได้ ย้ำจุดยืน ‘เพื่อนคู่คิด’ เติบโตเคียงข้างลูกค้าอย่างยั่งยืน
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมสร้างสรรค์บูธกิจกรรมภายในงาน Sustainability Expo 2022 หรือ ‘SX 2022’ ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อนำเสนอผลงานและโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นนโยบายการเติบโตที่สำคัญของธนาคาร โดยบูธกิจกรรมดังกล่าวจะนำเสนอแนวคิด ‘Creating Value for a Sustainable Future’ หรือ ‘สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน’ ซึ่งประกอบด้วยความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนทั้ง 5 มิติ ได้แก่
1. Be Responsible-การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ นับเป็นประเด็นสำคัญที่ผสมผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ามาอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ผ่านการสนับสนุนเครื่องมือทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่โครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำโดยบทบาทการเป็นผู้นำด้านรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้เพื่อการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้ง Green Bond, Social Bond และ Sustainable Bond หรือ Sustainability-linked Bond ซึ่งในปี 2564 ธนาคารเป็นผู้รับประกันการจำหน่ายตราสารกลุ่มดังกล่าวสูงถึงประมาณ 66% ของยอดออกตราสาร นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่สนับสนุนการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สินเชื่อบัวหลวงกรีน โครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และสินเชื่อเพื่อการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
2. Be Resilient- การรับมือกับภาวะวิกฤต เป็นมิติที่สอดคล้องกับบทบาทของธนาคารที่ต้องการเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ โดยในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคารได้จัดสรรมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ ทั้งส่วนที่เป็นมาตรการเฉพาะของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการความช่วยเหลือเป็นรายกรณี และดูแลทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยใช้สภาพคล่องของธนาคารเข้ามาดำเนินการ และขณะเดียวกันยังสนับสนุนภาครัฐ ภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนและหนี้ SME ด้วยเช่นกัน
3. Be Caring-การใส่ใจดูแลสังคม ซึ่งเป็นการดูแลสังคมด้วยสำนึกในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ เช่น โครงการบัวหลวงร่วมชุมชนแก้ภัยแล้ง การอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมไทย การพัฒนาเยาวชน และการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา
4. Be Customer Centric-การให้บริการที่ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เป็นมิติความยั่งยืนที่ผสมผสานกับมุมมองด้านการตลาด โดยตั้งต้นจากการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะพัฒนาบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา โครงการสำคัญคือ บริการ Cross-border QR Payment ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ สามารถชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ด้วยการสแกน QR Code ณ ร้านค้าในต่างประเทศ ขณะที่ร้านค้าในประเทศไทยก็สามารถรับเงินผ่าน PromptPay QR ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดและแลกเปลี่ยนเงินตรา ปัจจุบันเริ่มให้บริการนี้ระหว่างประเทศไทยกับหลายประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และล่าสุดคือ กัมพูชา
5. Be Ethical-การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ถือเป็นหัวใจของการบริหารธุรกิจด้านการเงินที่อิงอยู่บนความเชื่อถือไว้วางใจจากลูกค้าเป็นสำคัญ โครงการสำคัญคือ การจัดทำนโยบายสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงความเสี่ยงในด้าน ESG (Environment, Social, Governance) ในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่ครอบคลุมทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบุคคล
นอกจากเนื้อหาโครงการต่างๆ ของธนาคารแล้ว กิจกรรมครั้งนี้ธนาคารได้เชิญชวนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ถือเป็นเคสตัวอย่างความสำเร็จ 2 ราย เข้ามาร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย คือ บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด หรือ “บริบูรณ์ฟาร์ม” เอสเอ็มอีที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม โดยผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองไทย เพื่อวิจัยและพัฒนาสารสกัดอะโวคาโด ก่อนจะได้รับการสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรักษ์สุขภาพ รวมถึงการสร้างเครือข่ายเกษตรกรให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน และอีกรายคือ “แมคเลย” กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้านบ่อเหมืองน้อย จากจังหวัดเลย ผู้ผลิตและแปรรูปแมคคาเดเมียคุณภาพสูง พลิกวิกฤตจากโควิด-19 ให้กลายเป็นโอกาสเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิด ESG ที่ทำได้ทั้งรักษาสิ่งแวดล้อม ชุมชนมีรายได้ และปันส่วนกันอย่างเป็นธรรม
“ธนาคารกรุงเทพมีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณค่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการให้บริการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผล และการสนับสนุนให้ลูกค้าประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบคุณค่าในระยะยาวแก่สังคม ซึ่งธนาคารได้แปรนโยบายเหล่านี้ออกมาเป็นโครงการ กิจกรรม และมาตรการต่าง ๆ ในทางปฏิบัติซึ่งผสมผสานไปกับการทำธุรกิจ การตลาด การดูแลลูกค้า รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคม และที่สำคัญ เรามีตัวอย่างความสำเร็จจากการลงมือทำงานจริงกับลูกค้า สามารถพิสูจน์ได้ว่านำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้จริง เป็นผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจมาก ขณะเดียวกันยังช่วยตอกย้ำจุดยืนของธนาคารในการเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ กับลูกค้า และพร้อมจะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายทวีลาภ กล่าวสรุป
สำหรับผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ สามารถเข้าร่วมงาน Sustainability Expo 2022 โดยจะอยู่ใน Better Community Zone จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ ซึ่งเป็นนิทรรศการใหญ่งานแรกหลังการปิดปรับปรุง