ในทุกปี บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง จะเปิดรับนักศึกษาจากหลากหลายสถาบันเข้ามาร่วมฝึกงาน โดยในปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์ของโควิดและด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ การฝึกงานจึงเป็นรูปแบบออนไลน์แต่ยังคงไว้ด้วยความเข้มข้น
นักศึกษาฝึกงานจะมีโอกาสได้เรียนรู้การปฏิบัติงานในธุรกิจหลักทรัพย์กับทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้พวกเขานำประสบการณ์ไปปรับใช้ได้จริงกับการทำงานในอนาคต
นอกจากความรู้ด้านธุรกิจหลักทรัพย์แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการปลูกจิตสำนึกสาธารณะ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้ร่วมกันคิดและจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งในปีนี้นักศึกษาฝึกงานได้จัดกิจกรรม “พี่พบน้อง สานความสุข” ที่ “มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” โดยมีพี่ๆ จากหลักทรัพย์บัวหลวงคอยเป็นพี่เลี้ยง และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ในฐานะประธานชมรม CSR ของบริษัทกล่าวว่า “กิจกรรมที่จัดขึ้น เป็นการตอกย้ำถึงแนวคิดของบริษัทในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงสังคม เพราะนอกเหนือจากความรู้ในด้านธุรกิจแล้ว เรายังให้นักศึกษาฝึกงานได้คิดและทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมร่วมกับชมรม CSR เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรของการฝึกงาน ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ถึงแม้การฝึกงานปีนี้จะเป็นรูปแบบออนไลน์ กิจกรรมนี้ยิ่งถือเป็นโอกาสดีที่ทำให้พวกเขาได้เจอกัน ได้ทำงานร่วมกันอีกด้วย”
หลายๆ กิจกรรมถูกหยิบยกขึ้นมานำเสนอและแลกเปลี่ยนความเห็นในกลุ่มนศ.ฝึกงาน ก่อนจะได้ข้อสรุปกันที่กิจกรรม “พี่พบน้อง สานความสุข” จากนั้นได้สร้างการมีส่วนร่วมด้วยการเชิญชวนพี่ๆ พนักงานในบริษัท มาร่วมกันสมทบทุนบริจาคและร่วมเป็นอาสาเพื่อทำกิจกรรมครั้งนี้ให้กับเด็กผู้พิการทางสายตาซึ่งมีฐานะทางบ้านยากจนที่ “มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” และด้วยแรงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากพี่ๆ พนักงาน ทำให้ได้รับเงินบริจาคเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ สร้างความดีใจให้กับเหล่านศ.ฝึกงานเป็นอย่างมากที่กิจกรรมประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น
เมื่อได้รับเงินสมทบทุนจนทะลุเป้าหมายแล้ว นศ.ฝึกงานพร้อมพี่ๆ อาสาของบริษัท ได้ไปจัดกิจกรรมให้กับเด็กๆ ที่มูลนิธิ โดยมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกมส์ เล่นดนตรี ร้องเพลง แจกขนม เลี้ยงอาหาร อีกทั้งยังได้มอบของใช้จำเป็น อุปกรณ์การศึกษา และมอบเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ อีกกว่า 40,000 บาท นับเป็นช่วงเวลาของความความอิ่มเอมใจ และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
นายธนสันต์ สุสินนท์ หนึ่งในนักศึกษาฝึกงานจากชั้นปีที่ 4 จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า “การได้มาทำกิจกรรมนี้กับเพื่อนๆ นักศึกษา และพี่ๆ จากหลักทรัพย์บัวหลวง ทำให้ผมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแบ่งปัน และมีความสุขที่ได้เห็นเด็กๆ สนุกกับกิจกรรมที่พวกเราตั้งใจทำ ถือเป็นแรงบันดาลให้ผมอยากทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคตครับ”
หลักทรัพย์บัวหลวงยืนยันว่าจะจัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้สำหรับนักศึกษาฝึกงานในทุกปี เพราะนอกจากได้เปิดโลกของการเรียนรู้ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ให้กับพวกเขาแล้ว ยังช่วยบ่มเพาะจิตสำนึกด้านการทำประโยชน์ให้กับสังคม เพื่อให้พวกเขาเติบโตพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนต่อไป