ปัจจุบันความเหลื่อมล้ำทั้งในบริบทของธุริจและสังคมเกิดขึ้นทั้งในไทยและทั่วโลก การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ อย่างอินเทอร์เน็ต การอ่านออกเขียนได้ ระบบการศึกษาอาจจะเข้าถึงแบบวงกว้างเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาไม่สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่บั่นทอนการพัฒนาและขับเคลื่อบการเติบโตอย่างยั่งยืนได้
เพื่อลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ทั้งในภาคธุรกิจและสังคม รวมทั้งสามารถเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลก องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวและพลิกโฉม นำโมเดลทางธุรกิจและนวัตกรรมใหม่มาใช้ และประสานความร่วมมือกัน เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งเสริมผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างสรรค์ชุมชนที่น่าอยู่ และรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยังคงอุดมสมบูรณ์สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
คุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ที่มีกำลัง หรือมีเงินทุนมาก ควรปรับแนวคิดที่เน้นสร้างการเติบโตให้ตัวเอง หรือ Exclusive มาเป็นการให้โอกาสทุกคนในธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตไปด้วยกันได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนตัวเล็ก ธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่อาจยังไม่ได้ทำธุรกิจ แต่มีไอเดียดีๆ สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มหรือเครือข่ายทของภาคธุรกิจ มาต่อยอดในการสร้างรายได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเติบโตและแข็งแรงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นการเติบโตตามแนวทาง Inclusive Growth เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทั้งในบริบทของเศรษฐกิจและสังคม ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และภาวะสงคราม ทำให้มองเห็นความเหลื่อมล้ำต่างๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจจาก Exclusive ที่อาจะเป็นการทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลังมาเป็น Inclusive ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจลักษณะนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และสามารถขยายผลไปยังภูมิภาค หรือในระดับโลกได้ต่อไป โดยผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านเงินทุน ทีมงาน เครือข่าย หรือแพลตฟอร์ม ควรมองหาวิธีเข้ามาช่วยเหลือ หรือเอื้อโอกาสให้คนตัวเล็ก กลาง หรือคนที่กำลังจะเตรียมทำธุรกิจ ซึ่งเราเริ่มมองเห็นภาคธุรกิจของไทยหันมาใช้แนวทางนี้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการเข้าไปลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอี หรือกลุ่มสตาร์ทอัพต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐเองก็มีการสนับสนุนหรือผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ที่ทำให้ธุรกิจรายเล็ก สามารถเข้าถึงเงินทุนหรือสร้างโอกาสในการเติบโตได้มากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโออาร์ให้ความสำคัญกับแนวทางนี้อย่างชัดเจน สะท้อนได้จากการประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “Empowering All Toward Inclusive Growth” เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ทั้งทิศทางการขับเคลื่อนที่สะท้อนการเติมเต็มโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตร่วมกัน รวมท้ังการวัดผลที่มีมิติในเชิง Inclusive Growth ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้าน People ที่ต้องการสร้างการกินดีอยู่ดีให้ผู้คน 12 ล้านชีวิต และ 15,000 ชุมชน รอบพื้นที่ธุรกิจกินดีอยู่ดีได้
ด้าน Planet ผ่านเป้าหมายต้องการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในธุรกิจภายในปี 2030 และไปสู่ Net Zero ในปี 2050 ผ่านการขับเคลื่อนในเรื่องของพลังงานสะอาด ทั้งการส่งเสริม Solar Rooftop และ EV โดยวางเป้าหมายเป็นแบรนด์ผู้นำใน EV Ecosystem
และในมิติ Profit ที่ต้องการให้กำไรของการทำธุรกิจมากกว่า 50% มาจากส่วนที่เข้าไปร่วมทำธุรกิจกับพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ รวมไปถึงระดับคอปอเรทต่างๆ ภายใต้งบลงทุนที่วางไว้รวมกว่า 2 แสนล้านบาท โดยในช่วง 5 ปีแรกนี้ จะใช้งบราว 96,000 ล้านบาท ประกอบกับการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อสร้างโอกาสจากการเข้าไปร่วมทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาสินค้า บริการ หรือโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้คนในสังคมมากขึ้น หรือการทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
“ช่วงปลายปี ราวเดือน พ.ย. 2565 นี้ เราเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อรวมสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภค หรือ Super App ที่รวบรวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการของโออาร์รวมทั้งพันธมิตรต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์รูปแบบชีวิต Mobility Lifestyle เพื่อเชื่อมต่อผู้คนให้สามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้แบบ Seamless ทั้งที่เป็น Physical และ Digital ได้อย่างไร้รอยต่อด้วย”
Inclusive Growth Days empowered by OR สร้างโอกาสใหม่
ล่าสุด โออาร์ได้จัดงานเสวนาและโชว์เคสธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Inclusive Growth Days empowered by OR” โดยระดม 50 ผู้ทรงคุณวุฒิ และนักธุรกิจชั้นนำ ร่วมเจาะลึกโมเดลธุรกิจแห่งอนาคตที่จะมาช่วยต่อยอดการลงทุน ผู้เชี่ยวชาญวงการสตาร์ทอัพมาไขรหัสแห่งความสำเร็จ พร้อมทั้งการจัดแสดงสินค้า นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากพันธมิตรของโออาร์ ที่จะยกระดับธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม
พร้อมโอกาสในการสรรหาพันธมิตร สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อร่วมเติมเต็มศักยภาพและก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าไทยเด็ด อิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงความบันเทิงจากศิลปินนักร้อง นักแสดงชั้นนำ และแขกรับเชิญเซเลบริตี้มากมาย ตั้งแต่ 22 – 24 กรกฎาคม 2565 ที่ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 22 โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีที่ https://www.zipeventapp.com/e/Inclusive-Growth-Days
“งาน “Inclusive Growth Days empowered by OR” จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจสู่อนาคต ผู้ประกอบการธุรกิจทุกรูปแบบ ทุกขนาด ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ รวมถึงสตาร์ตอัป จะได้รับประโยชน์โดยตรงเมื่อมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงมองหาพันธมิตรและช่องทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างธุรกิจต่าง ๆ โดยคุณค่าและสาระประโยชน์จากเวทีเสวนาและโชว์เคสครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นได้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากผู้บริหารจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนนักธุรกิจและผู้บริหารองค์กรธุรกิจชั้นนำจากหลากหลายภาคอุตสาหกรรม รวมกว่า 50 ท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนมุมมอง และประสบการณ์ ด้วยความตระหนักดีว่า การดำเนินธุรกิจแบบเดิมที่มุ่งเน้นเพียงการแสวงหาผลกำไร ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาร่วมสร้างโอกาสให้ทุกคนในสังคมเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive Growth”