สตาร์ทอัพมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระดมทุน 50 ล้านปอนด์ เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ให้สามารถลดระยะเวลาในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในไม่เกิน 5 นาที ประสิทธิภาพดีขึ้น 10 เท่า ช่วยลดข้อจำกัดการใช้งานรถไฟฟ้า
Nyobolt (นิโอโบลท์) กลุ่มสตาร์ทอัพ นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ได้ระดมเงินทุนจาก Masan High-Tech Materials บริษัทซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอะไหล่ของเวียดนาม ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 300 ล้านปอนด์
ศาสตราจารย์ Prof Clare Philomena Grey ผู้พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่นี้กล่าวว่า แบตเตอรี่ของ Nyobolt ใช้แอโนดจากไนโอเบียม ซึ่งเป็นผลึกโลหะสีเทาและทังสเตนที่ช่วยให้ชาร์จแบตได้เร็วขึ้น โดยเทคโนโลยีนี้สามารถชาร์จไฟได้ 90% ของความจุภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งานให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่า จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านระยะทางในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าลงได้
ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ส่วนใหญ่ จะเดินทางได้ราว 300 ไมล์ ก่อนจะต้องทำการชาร์จซ้ำใหม่อีกครั้ง ทำให้เป็นข้อจำกัดในการเดินทางไกล เพราะผู้ขับขี่กลัวว่าอาจจะต้องเสียเวลาอยู่ข้างทางระหว่างที่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งการพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้ จะช่วยลดเวลาในการชาร์จลงและทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานกังวลมากที่สุด
Nyobolt ยังสามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและหุ่นยนต์ได้ด้วยเช่นกัน ศาสตราจารย์เกรย์ ซึ่งเป็นทีมผู้พัฒนาบอกถึงความรู้สึกตื่นเต้นที่ผลงานจากการพัฒนาจะถูกแนะนำสู่ตลาดเพื่อการใช้งานจริง
สำหรับเงินทุนก้อนใหม่นี้ จะนำไปขยายโรงงานผลิตแห่งใหม่ใน UK รวมทั้งการขยายโรงงานปัจจุบันในสหรัฐ โดยบริษัทมีแผนจะผลิตแบตเตอรี่จำนวนหลายล้านยูนิต ภายในปีหน้า รวมทั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นด้วยการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าด้วย นอกจากนี้ Nyobolt ยังวางแผนด้านการบริหารจัดการในการจัดเก็บแบตเตอรีสำหรับนำกลับมารีไซเคิลใหม่อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้อัดฉีดเงิน 330 ล้านปอนด์ สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายสู่ Net zero ในปี 2050 และนับจากปี 2030 สหราชอาณาจักรจะเริ่มห้ามการขายรถยนต์ใหม่ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล และหันมาใช้รถไฟฟ้า ขณะที่ในอังกฤษยังมีบริษัท Britishvolt ที่กำลังวางแผนพัฒนาแบตเตอรี่ ‘gigafactory’ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และได้รับทุนเบื้องต้น 1,700 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในเดือนมีนาคมสามารถระดมทุนเพิ่มได้อีก 40 ล้านปอนด์ จากเหมือง Glencore