ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นิสสัน เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่ในญี่ปุ่น คือ ซากุระ (Sakura) ชื่อรุ่นหมายถึง ดอกซากุระอันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ป่น ด้วยราคาที่เอื้อมถึงได้เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยมีเป้าหมายให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่สามารถเจาะตลาดมวลชน และหวังว่าจะเป็นรุ่นที่มาเปลี่ยนเกม ทำให้ตลาด EV เข้าถึงคนญี่ปุ่นได้มากขึ้น
อาซาโกะ โฮชิโนะ รองประธานบริหารของนิสสันกล่าวว่า ซากุระรุ่นใหม่นี้ จะมาในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับตลาดมวลชน ด้วยความเชื่อว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม (Game Changer) สำหรับตลาดญี่ปุ่นและจะทำให้ EV เข้าถึงลูกค้าในญี่ปุ่นได้มากขึ้น
ทั้งนี้ Sakura นำเสนอพลังที่นุ่มนวลและเงียบในทันทีซึ่งเป็นจุดเด่นของ EV พร้อมกับเทคโนโลยีการควบคุมขั้นสูงและมอเตอร์ที่ให้กำลัง 47 กิโลวัตต์ และแรงบิด 195 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่สามโหมด ได้แก่ Eco, Standard และ Sport ที่มอบประสบการณ์และประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติ ProPILOT Park ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่และช่วยให้การจอดรถง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มระบบขับขี่ชั้นสูงเป็นครั้งแรกของรถยนต์ขนาดเล็กด้วย (รายละเอียดแตกต่างกันไปตามรุ่น)
ซากุระติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนล้ำสมัย ซึ่งต่อยอดมาจาก LEAF (รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตแบบ Mass Production รุ่นแรกของโลก โดยนิสสัน มอเตอร์ ที่จำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2010) ด้วยวิธีการซ้อนเซลล์แบบพิเศษ ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดกะทัดรัด เพิ่มพื้นที่ภายในให้กว้างขวาง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน โดยแบตเตอรี่ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในกรณีฉุกเฉิน
ซากุระ มาพร้อมการออกแบบที่สะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นไว้อย่างโดดเด่น ทั้งชื่อซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ประเทศญี่ปุ่น และลายกลีบดอกซากุระ ตามที่เก็บของ และแผงหน้าปัด รวมทั้งที่ล้ออะลูมิเนียมยังมีลวดลาย “มิซูฮิกิ” ซึ่งมักพบได้ตามถุงของขวัญ หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในญี่ปุ่น สะท้อนถึงความงามแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น การออกแบบ “โครงตาข่าย” บนกระจังหน้าและไฟท้าย ผสานเข้ากับการออกแบบ EV ที่ทันสมัยที่สุดได้เป็นอย่างดี
ขณะที่การออกแบบภายนอกของซากุระแสดงออกถึงความซับซ้อนและความแข็งแกร่ง ไฟหน้าเพรียวบางหรูหราพร้อมลำแสงสามแบบ มีพอร์ตชาร์จที่อยู่ด้านขวาด้านหลังซากุระ จะสว่างขึ้นเมื่อเปิดฝาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานในเวลากลางคืน และมีสีตัวถังให้เลือก 15 สี รวมถึงสีทูโทนสี่สีที่ชวนให้นึกถึงฤดูกาล ประกอบด้วย Blossom Pink (ฤดูใบไม้ผลิ), Sorbet Blue (ฤดูร้อน), Akatsuki-Akatsuki-Sunrise Copper (ฤดูใบไม้ร่วง) และ White Pearl (ฤดูหนาว) ส่วนภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีเบจ และสีเทาสีน้ำเงิน
เบื้องต้น นิสสันซากุระมีกำหนด วางจำหน่ายในญี่ปุ่น ช่วงฤดูร้อน โดยมีราคามีตั้งแต่ 2,333,100 ถึง 2,940,300 เยน (รวมภาษีการบริโภคและภาษีอื่นๆ) อย่างไรก็ตาม ราคาซื้อจริงเมื่อใช้เงินอุดหนุนส่งเสริมการขายรถยนต์พลังงานสะอาดที่ราว 5.5 แสนเยน จะเหลือราคาจำหน่ายจริงอยู่ที่ประมาณ 1.78 ล้านเยน หรือประมาณ 4-5 แสนบาท
นอกจากการขาย แบบ Face to Face ตามปกติแล้ว นิสสันจะเสนอทางเลือกในการซื้อทางออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ เช่น วิดีโอแชทและเว็บไซต์เฉพาะ ที่สามารถสั่งซื้อได้จากบ้านเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นของผู้บริโภคอีกด้วย