หลังตัดสินใจเลิกสานต่อธุรกิจที่ได้รับช่วงต่อมาจากที่บ้าน ในการดูแลโรงงาน OEM กระเป๋าหนังแท้เพื่อส่งออก และหันมาทำแบรนด์รองเท้าของตัวเองที่ชื่อว่า HEXA (เฮกซ่า) ด้วยปณิธานว่า แบรนด์นี้จะต้องเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยความเมตตา และสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องเบียนเบียนใคร ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งแวดล้อมก็ตาม ตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ว่า Merciful Living โดยป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก PETA ว่าไม่มีการเบียดเบียนชีวิต และไม่มีการใช้สัตว์มาทำการทดลองใดๆ ในกระบวนการผลิตอีกด้วย
คุณทราย – อนุตรา มหัทธนารักษ์ เจ้าของและ CEO แบรนด์รองเท้า เฮกซ่า (HEXA) กล่าวถึงจุดเปลี่ยนจากการดูแลธุรกิจกระเป๋าหนังแท้ส่งออกให้กับครอบครัวมาสู่การปั้นแบรนด์รองเท้าของตัวเอง เพราะมองว่า ธุรกิจแฟชั่นในรูปแบบ Sustainable Fashion กำลังได้รับความสนใจ ประกอบกับการที่ตัวเองอยู่ในกลุ่มรับประทานมังสวิรัติ หรือ วีแกน (Vegan) และชื่นชอบรองเท้าอยู่แล้ว จึงอยากทำแบรนด์รองเท้าที่ไม่ต้องใช้วัสดุที่มาจากสัตว์ หรือส่วนประกอบอื่นใดจากสัตว์เลย เนื่องจาก มองเห็นการใช้หนังวัวในการทำกระเป๋ามาเป็นเวลานาน จึงมีความคิดอยากจะลดการเบียดเบียนชีวิต ประกอบกับมองเห็นหนังวัวที่ไม่ได้นำไปใช้งาน ทั้งส่วนที่เหลือหรือส่วนที่ไม่ได้คุณภาพถูกทิ้งจากอุตสาหกรรมในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
เป็นที่มาของการพัฒนาแบรนด์ HEXA ให้เป็นรองเท้าหลากหลายรูปแบบ และสวมใส่สบาย ทั้งลำลอง ผ้าใบ หรือส้นสูง และราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ซึ่งในกระบวนการผลิตจะไม่มีการเบียดเบียนสัตว์ต่างๆ เลย ตามแนวคิด Comfort Vegan Shoes โดยเฉพาะจุดเด่นในเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งคุณทรายได้นำ Painpoint ส่วนตัวที่เคยได้รับการจากใส่รองเท้าที่ไม่สบายเท้ามาแก้ไข เพื่อให้ HEXA เป็นรองเท้าที่คุณสภาพสตรีสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากรองเท้าทุกคู่ที่เคยใส่มา โดยเฉพาะอาการปวดขาจากการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน แต่จากการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่แตกต่าง ทำให้รองเท้าส้นสูงของ HEXA ใส่สบายจนแทบจะสามารถวิ่งได้เลยทีเดียว
คุณทรายเล่าถึง การออกแบบรองเท้าของ HEXA ที่แตกต่างเพราะการเลือกใช้โฟมเพื่อลดแรงกระแทกเวลาเดิน ซึ่งปกติจะอยู่ในรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังๆ แต่การออกแบบรองเท้าส้นสูงส่วนใหญ่จะขาดในส่วนนี้ไป โดยโฟมที่นำมาใช้จะเป็นโฟมที่ทำมาจากโฟมรีไซเคิล และใช้น้ำมันละหุ่งในการผลิตแทนการใช้น้ำมันปิโตรเลียม จึงช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงการนำนวัตกรรมเดียวกับที่ NASA ใช้ในการออกแบบชุดของนักบินอวกาศ ที่ชื่อว่า Outlast มาใช้เพื่อช่วยลดการเกิดเหงื่อออกที่เท้าในขณะสวมใส่ และคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 37 องศา จึงช่วยลดอุณหภูมิในขณะเดินได้
ส่วนการหาวัสดุมาใช้แทนหนังสัตว์ จะเลือกใช้ไมโครไฟเบอร์ ที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีความทนทาน กันน้ำ ดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ใส่ใจคนทำงาน ซึ่งในคอลเล็คชั่นใหม่ๆ จะมีการคัดสรรวัสดุในการผลิตที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น เช่น การใช้หนังองุ่น ซึ่งเป็นการใช้วัสดุที่เปลี่ยน Waste ที่เกิดจากกระบวนการในการผลิตไวน์มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากร หรือ Circular รวมทั้งการมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนได้
ขณะที่เป้าหมายของ HEXA ไม่ได้หยุดตัวเองไว้เพียงแค่การเป็นแบรนด์รองเท้าเท่านั้น แต่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อเข้าไปอยู่ในส่วนหนึ่งของผู้บริโภคในกลุ่ม Merciful Living Lifestyle ที่แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ใช่กลุ่มมังสวิรัติ แต่สามารถสนับสนุนไอเดียในการดำรงของแบรนด์ที่มีเมตตา และไม่เบียดเบียนผู้อื่นของแบรนด์ได้ โดยจะเริ่มต้นการจำหน่ายมาสคาร่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเท็มยอดนิยมที่ผู้หญิงในปัจจุบันนิยมใช้ รวมถึงคุณทรายเองก็ชื่นชอบ และใช้งานเองด้วยเช่นเดียวกัน
สุดท้ายคือ ความหมายของชื่อแบรนด์ HEXA หรือเฮกซ่านั้น มาจาก Hexagon ซึ่งหมายถึง รูปทรงหกเหลี่ยมซึ่งถือเป็นโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในโลกตามธรรมชาติ สะท้อนได้ถึงการเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ประกอบกับ รูปร่างที่คล้ายกับรังผึ้ง เชื่อมโยงไปถึงเรื่องของสัตว์และธรรมชาติได้อีกมิติหนึ่ง รวมไปถึงเพื่อให้ตอบโจทย์เป้าหมายในการเป็นแบรนด์ที่ดำรงอยู่ได้ด้วยความเมตตาและไม่เบียดเบียนใคร ด้วยการนำรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้านการดูแลสัตว์ อาทิ The voice foundation และ Save Elephant รวมไปถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีความตั้งใจจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับสัตว์ ทั้งการเชิญชวนผู้คนมาบริจาคเพื่อช่วยเหลือและดูแลสัตว์ต่างๆ รวมทั้งการนำเสนอบทความที่ช่วยถ่ายทอดให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิทธิของสัตว์มากขึ้นอีกด้วย