ไม่ใช่เพียงแค่บรรดาแบรนด์ในฟากฝั่ง Commercial เท่านั้น ที่นำแบรนด์เข้ามาอิงกับกระแส #คนธรรมดา ซึ่งกำลังเป็นไวรัลทางการตลาดอยู่ในขณะนี้ แม้แต่ฟากฝั่ง NonCommercial เองก็ไม่ยอมตกกระแส พยายามเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างประโยชน์กับกระแสที่เกิดขึ้น สำหรับต่อยอดงานด้านการพัฒนาหรือสร้างความแข็งแรงต่อเครือข่ายทางสังคมของตัวเองเช่นกัน
เช่นเดียวกับ “มูลนิธิกระจกเงา” ที่ต้องยอมรับว่าเป็นผู้นำในฟากฝั่งองค์กรไม่แสวงหากำไร หรือในกลุ่ม NGO ที่มีความโดดเด่นในการวางกลยุทธ์การสื่อสารจนทำให้สังคมต้องฉายสปอตไลท์มาหาอยู่บ่อยๆ
ซึ่งในไวรัล #คนธรรมดา นี้ มูลนิธิกระจกเงาก็ไม่พลาดที่จะออกมาเขียนจดหมายถึง นักศึกษาธรรมดา แต่บ้างาน เพื่อชวนมาร่วมฝึกงานที่ไม่ธรรมดา พร้อมใช้เนื้อหาในจดหมายบอก Mission องค์กร ที่มีหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ไขปัญหาสังคมที่คนธรรมดาอย่างเราๆ ต้องอยู่ ก่อนจะชวนนักศึกษามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการทางสังคมไปกับทางมูลนิธิกระจกเงา โดยคงคอนเซ็ปต์ความธรรมดา ให้นักศึกษาฝึกงานแต่งตัวธรรมดา จะเสื้อยืด เสื้อแขนกุด ขาสั้น รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ ได้ทุกแบบ
สำหรับมูลนิธิกระจกเงาถือว่ามีความโดดเด่นในการนำหลักการตลาดมาใช้ในการสื่อสาร โดยเฉพาะกลยุทธ์ Realtime Marketing ที่จุดชนวนให้คนหันมาสนใจปัญหาสังคมในมิติต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงสำนักนายก เพื่อขอบริจาคโทรศัพท์เครื่องเก่า 111 เครื่อง เมื่อครั้งที่สำนักนายกได้อนุมัติงบประมาณ 2.6 ล้านบาท จัดซื้อไอโฟน 12 จำนวน 111 เครื่อง ให้แก่ผู้บริหารสำนักนายกฯ ซึ่งสร้างให้เกิดเป็น Talk of the town ในขณะนั้น
ทั้งนี้ หากสังเกตุจะพบว่ามูลนิธิกระจกเงาจะไม่ได้เข้ามาเล่นกับทุกกระแสทางการตลาดที่เกิดขึ้น แต่จะเลือกกระแสที่เหมาะสมในการนำองค์กรเข้าไปเชื่อมโยงด้วย โดยเฉพาะเป็นกระแสที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับโครงการที่มีอยู่แล้ว หรือตอบโจทย์ 3 Missiom หลักขององค์กรในการ สร้างคน สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อครั้งที่เขียนจดหมายถึงสำนักนายก เพื่อขอบริจาคโทรศัพท์เครื่องเก่า เพื่อนำมาต่อยอดให้เด็กๆ ใช้เป็นอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 ซึ่งมีเด็กส่วนใหญ่ที่มีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ รวมทั้งกระแสล่าสุดนี้ ที่นำมาเชื่อมโยงกับการรับนักศึกษาฝึกงานเพื่อเข้ามาช่วยงานในมูลนิธิ ในโครงการ “นักศึกษาบ้าฝึกงาน” ที่ทางมูลนิธิมีอยู่แล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ มูลนิธิกระจกเงายังเป็น NGO ลำดับต้นๆ ที่คนมักจะถึงถึง ในหลายๆ เรื่อง อาทิ เมื่อต้องการบริจาคสิ่งของเหลือใช้ หรือเมื่อต้องการติดตามหาคนหาย และยังมีหลายๆ โครงการเช่น จ้างวานข้า ที่ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มคนไร้บ้าน เป็นต้น
โดยเนื้อหาในจดหมายคร้ังล่าสุด เพื่อสื่อสารไปยังนักศึกษาธรรมดาที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อสังคม มีใจความว่า
ถึง นักศึกษา…ธรรมดา
เราเข้าใจชีวิตของคนธรรมดา ที่ใส่เสื้อยืดรองเท้าผ้าใบ มันเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ในชีวิตของคนธรรมดาอย่างพวกเรา กลับอยู่ในสังคมที่ซับซ้อน คนจน คนป่วย คนหาย คนไม่เท่ากัน
สังคมเช่นนี้เป็นสังคมที่ผิดปกติ พวกเราซึ่งรวมตัวกันจากคนธรรมดาทั่วไป เพื่อมาศึกษาและลงมือในการแก้ไขปัญหาสังคม
หากคุณคือนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง ที่กำลังเรียนจบและต้องการหาที่ฝึกงานที่ไม่ธรรมดา เชิญสมัครเข้าโครงการนักศึกษาบ้างานได้ ที่มูลนิธิกระจกเงา เราอนุญาตให้คุณแต่งตัวธรรมดา อย่าว่าแต่เสื้อยืดรองเท้าผ้าใบเลย จะใส่เสื้อแขนกุด ขาสั้น รองเท้าแตะ ก็มาฝึกงานได้ เพียงแค่คุณสัญญาว่าจะเปิดตาให้กว้าง พร้อมเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติการทางสังคมกับเรา
นักศึกษาบ้าฝึกงาน
มูลนิธิกระจกเงา