ไฮเนเก้นติดตั้งแผงโซลาร์ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเบียร์ วางโรดแม็พการผลิตอย่างยั่งยืน

ไฮเนเก้น โดย ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ เร่งแผนแม่บทด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม​ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ภายใน พ.ศ. 2573 เปิดโครงการ “TAP’s Brewed by the Sun” ติดตั้งแผงโซลาร์ในโรงเบียร์ เพื่อนำพลังงานสะอาดที่ได้จากแสงอาทิตย์เข้ามาแทนที่การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง

สำหรับโครงการ  TAP’s Brewed by the Sun​ เป็นโครงการโซลาร์ฟาร์ม ที่ทางไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ ได้ริเริ่มขึ้นมาตามยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของไฮเนเก้น “Brew A Better World” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นต่อทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อม  ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานอื่นให้ได้สูงสุด เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนของภาคการผลิตให้ได้ตามเป้าหมาย และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 30% ภายในพ.ศ. 2573 รวมทั้ง​ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจภายใน พ.ศ. 2583  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ไฮเนเก้นได้ระบุไว้ให้โรงเบียร์ทุกแห่งทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน

โครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 10 ไร่ เทียบเท่าได้กับสนามฟุตบอล 2 สนาม สามารถผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละปีเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของภาคครัวเรือน จำนวน 736 ครัวเรือน หรือ คิดเป็นประมาณ 30% ของครัวเรือนทั้งหมดในตำบลไทรใหญ่ ในจังหวัดนนทบุรี  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โรงเบียร์ตั้งอยู่

และเมื่อระบบพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมสำหรับการผลิตอย่างเต็มศักยภาพ พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในส่วนของกระบวนการผลิตเบียร์ได้ถึง 720 ตัน CO2e ต่อปี หรือ 1.48 kgCO2e/HL โดยเทียบเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนคิดเป็น 30% ของไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานผลิตทั้งหมด

วางกรอบแนวทางการผลิตอย่างยั่งยืน

การนำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าทดแทนในการผลิตเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อให้ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ บรรลุเป้าหมายแนวทางการผลิตอย่างยั่นยืนให้สำเร็จ ซึ่งทางบริษัทได้วางเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่ม รวมถึง

-Wastewater Management ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบำบัดน้ำเสีย โดยได้ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพน้ำหลังการบำบัดอย่างใกล้ชิดก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ โดยภายในปี 2025 ได้ตั้งเป้าการลดปริมาณการใช้น้ำลงจากปี 2021 ให้ได้ 4%

-Zero Waste to Landfill การกำจัดกากของเสียโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และหันมากำจัดของเสียด้วยวิธีเผาในเตาที่มีอุณหภูมิสูงแทนการฝังกลบแบบเดิมๆ ที่สร้างปัญหาผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเพิ่มมูลค่าของเสีย โดยการนำเอาของเสียต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้นำไปขายเพื่อรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ โดยตั้งเป้าบรรลุเป้าหมายในปี 2022

-100% Renewable Electricity ตั้งเป้าใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในการผลิตให้ได้ 100% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมด 12,600 ตันต่อปี ภายในปี 2025

-Carbon Neutrality ตั้งเป้าใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตให้ได้ 100% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 21,300 ตันต่อปี ภายในปี 2030

นายธัม ซี่ เหยียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า  “ทุกสิ่งที่เราทำไป เราต้องแน่ใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและกับคนรุ่นต่อไปในอนาคต การบรรลุเป้าหมายครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งความมุ่งมั่นและจุดหมายของเราสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และเป็นไปตามพันธกิจที่ไฮเนเก้นได้วางไว้ที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์โดยสุทธิ (net zero) ทุกคนมีส่วนช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งเราตระหนักถึงความรับผิดชอบและได้ลงมือทำให้เกิดขึ้นในวันนี้”  

Stay Connected
Latest News

KCG เปิดวิสัยทัศน์ CEO คนใหม่ ‘ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล’ สร้างการเติบโตที่มั่นคง ยั่งยืน และพร้อมสู่อนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลง ทรานส์ฟอร์มองค์กร สานต่ออาณาจักรอาหารสไตล์ตะวันตก เนยและชีส