เนื่องในวัน “ป่าชายเลนแห่งชาติ” 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา วราวุธ รมต.กระทรวงทรัพย์ พร้อมทุกภาคส่วนเอกชน ร่วมกิจกรรม ณ สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 บ้านเสม็ดงาม จ.จันทบุรี พร้อมจับมือเอกชนตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์เป็น 3 แสนไร่ ภายใน 5 – 10 ปี
ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ เป็นประธานในพิธีจัดกิจกรรม”วันป่าชายเลนแห่งชาติ” ซึ่งจัดโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยมี โสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , นิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี , ภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และ บุษบรรณ จีนเจริญ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) ตลอดจนเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และชุมชนชายฝั่ง เข้าร่วมกิจกรรม ณ สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 บ้านเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงวันป่าชายเลนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 ว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 เห็นชอบกำหนดให้วันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับป่าชายเลนเป็นครั้งแรกในวันนี้ เมื่อปี 2534 หรือ 31 ปีล่วงมาแล้ว นับตั้งแต่นั้นมาประเทศไทยได้พยายามเดินหน้าอนุรักษ์ ฟื้นฟู และให้ความสำคัญกับผืนป่าชายเลนมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน และผลการสำรวจเมื่อปี 2563 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนไร่ เมื่อเทียบกับปี 2557 แต่ความสำเร็จคงไม่หยุดแค่นั้น รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์เป็น 3 แสนไร่ ภายใน 5 – 10 ปี ซึ่งตนคาดว่าไม่ยากเกินไป เนื่องจาก กระแสสังคมต่างให้ความสำคัญกับผืนป่าชายเลน พี่น้องประชาชนแสดงเจตนารมณ์ที่จะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟู และดูแลทรัพยากรป่าชายเลนอย่างจริงจังในทุกจังหวัดชายฝั่งทะเล
“วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เป็นวันที่ทุกคนต่างร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของการมีส่วนร่วมในการรักษาป่าชายเลนในปีที่ผ่านมา และร่วมกันแสดงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปฏิบัติการในปี ต่อไป ตนขอชื่นชมในความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง จนผืนป่าชายเลนประเทศไทยมีความสมบูรณ์และยั่งยืนอย่างทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลและเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเป็น 3 แสนไร่ ตนได้หารือกับ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้หาแนวทางสร้างความท้าทายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้เร็วและมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดอีกด้วย
ด้าน ศ. ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ กล่าวภายหลังการเปิดงานและมอบโล่เกียรติคุณ ว่าในเชิงวิชาการแล้วป่าชายเลนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศสูงมาก อีกทั้ง ยังสร้างประโยชน์ให้กับมวลมนุษยชาติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ตั้งแต่ในระดับนโยบายหลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่างให้ความสำคัญและยกเป็นนโยบายสำคัญ รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ถ่ายนโยบายลงสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และที่สำคัญสามารถดึงพี่น้องประชาชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างเข้มแข็งและจริงจัง และวันนี้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับเครือข่ายชุมชนดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนกว่า 10 ชุมชน ได้เห็นถึงหัวใจที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์ป่าชายเลน ตนรู้สึกภูมิใจและดีใจที่ทุกคนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ป่าชายเลน และตนเชื่อมั่นว่าเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยคงไม่ยากอย่างแน่นอน และเราคงจะได้ฉลองพื้นที่ป่าที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ทุกปี ใน “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” 10 พฤษภาคม ของทุกปี
ส่วน โสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมวันป่าชายเลนแห่งชาติในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้ทราบถึงความสำคัญและคุณค่าของทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลน รวมถึงตอกย้ำความสำเร็จจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทุกคน อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตั้งเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน 153,400 ไร่ ภายในปี 10 ปี และตั้งเป้าหมายในการดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต บนเนื้อที่ อีกกว่า 3 แสนไร่ โดยในปี 2565 ได้เตรียมพื้นที่เพื่อดำเนินการโครงการ ทั้งสิ้น 34,284.13 ไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายที่กรมฯ ได้ตั้งไว้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนในการมีส่วนร่วมและดำเนินงานเฉกเช่นที่ผ่านมา กรม ทช. จะมุ่งมั่นและตั้งใจอนุรักษ์ผืนป่าชายเลนร่วมกับพี่น้องประชาชนเช่นนี้ตลอดไป
ภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวสรุปว่า เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ DOW จึงมุ่งมั่นส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างครบวงจรและมีส่วนร่วม เพราะป่าชายเลนเป็นป่าที่สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีที่สุดซึ่งจะช่วยลดปัญหาโลกร้อน และยังเป็นปราการที่สามารถดักกรองขยะไม่ให้ลงสู่ทะเล โดยได้ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการปลูกป่าชายเลนที่ DOW ดำเนินการต่อเนื่องมากกว่า 13 ปี ในประเทศไทยโดยร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และพันธมิตรด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน ริเริ่มและดำเนินโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ซึ่งไม่ใช่การปลูกป่าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การท่องเที่ยว การจัดการขยะ และผลักดันให้เกิดคาร์บอนเครดิตจากการดูแลป่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้นยังสนับสนุนให้ชุมชน เยาวชน และประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วม ความร่วมมือนี้ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโครงการที่ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครบวงจร