กระแส “ความยั่งยืน” ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆที่มีจุดมุ่งหมายในการลดคาร์บอนเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน และอุตสาหกรรมแฟชั่นก็เป็นหนึ่งวงการที่มีความพยายามปลุกกระแสนิยมรักษ์โลกเพื่อเป็นเทรนด์ “แฟชั่นที่ยั่งยืน” เนื่องจากถูกจับตามองมาตลอดว่าเป็นหนึ่งตัวร้ายที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
Angle Chang ดีไซเนอร์ชื่อดังที่นำชื่อของตัวเองมาเป็นชื่อแบรนด์เสื้อผ้าสตรีสุดหรู ที่มีคำนิยามว่า “ แฟชั่นปราศจากไฟฟ้า” และ “ เสื้อผ้าสไตล์โบราณ” ซึ่งทั้ง 2 คำนี้ทำให้แบรนด์แฟชั่นที่สร้างความยั่งยืนที่ส่งให้ Chang ขึ้นไปยืนโบกธงอยู่บนแถวหน้าบนแคทวอล์ก
เมื่อหลายปีก่อน Chang มีโอกาสไปออกแบบแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้เธอได้รับรู้และสัมผัสกับผลกระทบของสารสังเคราะห์เคมีที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นั่นเป็นจุดที่ทำให้ Chang พลิกชีวิตพร้อมกลับมุมมองใหม่ของเสื้อผ้าว่า “แฟชั่นสามารถที่จะยั่งยืนได้มากกว่านี้” ในปี 2011 Chang ตัดสินใจบอกลานิวยอร์กและกลับมาเริ่มต้นสร้างแบรนด์แฟชั่นของตัวเองที่บ้านเกิดในหมู่บ้านมณฑลก้ยโจว ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขา Karst ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ที่รายล้อมไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อไปศึกษาเรื่องการทอผ้าและเทคนิคที่จะนำมาใช้กับการผลิตเสื้อผ้าให้เกิดความยั่งยืนได้อย่างไร
เพราะเมืองที่เธออาศัยอยู่นั้นอยู่ห่างจากเมืองเป็นอย่างมากทำให้แหล่งพลังงานเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้ แบรนด์แฟชั่นของเธอจึงมีเพียง 3 ปัจจัยหลักเท่านั้น คือแสงแดด-พืชและน้ำจากภูเขา
ซึ่งเมื่อ Chang เข้าไปช่วยฟื้นฟูด้วยกระบวนการแบบดั้งเดิมที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด น้ำเสียที่ปล่อยออมาไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการตั้งโรงงานทอผ้าในท้องถิ่นโดยใช้แรงงานของคนในท้องถิ่น ส่งเสริมให้มีรายได้ขจัดความยากจนในพื้นที่ให้หมดไป
แบรนด์แฟชั่นของ Chang เกิดจากการคำนึงถึงผลกระทบของวัสดุสังเคราะห์ต่อสิ่งแวดล้อม และความต้องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านด้านการตัดเย็บที่นับวันเริ่มหายไป โดยเสื้อผ้าของเธออาศัยแรงงานฝีมือในหมู่บ้านที่สืบทอดความรู้กันมารุ่นสู่รุ่นตั้งแต่กระบวนการผลิตตั้งแต่การปลูกฝ้ายไปจนถึงการตัดเย็บเสื้อผ้า และการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นมีรายได้ ช่วยขจัดความยากจนในพื้นที่ให้หมดไป นอกจากนี้ กระบวนการผลิตเสื้อผ้าของเธอยังไม่ใช้พลังงานไฟฟ้าเลยแม้แต่น้อย และปราศจากส่วนประกอบของพลาสติก อีกทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.4 กิโลกรัมเท่านั้น
เสื้อผ้าของ Chang นับได้ว่าเป็น “แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อโลก” โดยตั้งแต่ปี 2017 เธอและกลุ่มแรงงานฝีมือได้ผลิตคอลเลคชั่นเสื้อผ้าหลากหลายแบบตั้งแต่เสื้อคอปกสไตล์คลาสสิกไปจนถึงกางเกงขาบาน (Palazzo pants) เสื้อเดรสแขนยาว และกางเกงพลีท นอกจากนี้ สีที่นำมาใช้ย้อมเสื้อผ้าก็เป็นสีธรรมชาติที่หาได้จากในบริเวณหมู่บ้าน และความเป็นธรรมชาติที่ได้ใส่ลงไปในผลงานเหล่านี้ทำให้เสื้อผ้าของเธอให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ซึ่งได้รับการันตีจากนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง Cate Blanchett ที่เป็นลูกค้าคนแรกๆของ Chang
แม้ว่าราคาจะสูงถึง 865 เหรียญสหรัฐ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ Chang พยายามสื่อว่า “การตัดเย็บแบบโบราณขั้นสูง” หรือ “ancient coutour” ที่ใช้วัสดุและพลังงานจากธรรมชาติทั้งหมดใช้เวลาผลิตแต่ละตัวค่อนข้างยาวนาน เพราะกระบวนการผลิตที่ต้องอาศัยเงื่อนไขทางธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ความชื้น และแสงแดด เป็นต้น นอกจากนี้ เสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Chang
อย่างไรก็ตาม Chang ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการผสมผสานระหว่างวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติกับภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถือเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นสามารถช่วยให้แฟชั่นมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือดีไซเนอร์สาวชาวเอเชียที่ใช้พรสวรรค์ในการออกแบบเสื้อผ้าแนวความยั่งยืน เพื่อกระตุ้นในสาว ๆ ผู้หลงใหลในความงามของเสื้อผ้าได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและต่อโลก
Credit :
https://www.vogue.com/article/angel-chang-sustainable-collection-electricity-free-fashion
Photo :
https://magazine.astonmartin.com/people/meet-angel-chang-designer-preserving-chinese-t
