เมื่อปี 2563 ชุมชนเมืองมาย ได้รับการประเมินทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนเชิงนิเวศครบทั้ง 19 ตัวชี้วัด ตามเกณฑ์การประเมินของกองสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่เฉพาะ ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มขึ้นเป็น 70% จาก 53% ซึ่งจัดอยู่ในระดับ ECO CITY ถือเป็นต้นแบบของการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง
ชุมชนเมืองมาย จังหวัดลำปาง ซึ่งถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง และคนในชุมชนตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental, Social, Governance) จึงได้ชักชวนชุมชนทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาเมืองและชุมชนเชิงนิเวศ สู่การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ไปเมื่อปี 2562 เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาเมืองและชุมชนเมืองมาย จังหวัดลำปาง ให้เป็นต้นแบบเมืองนิเวศ (ECO CITY)
“เราได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของ SCG มาปรับใช้ พัฒนาต่อยอด และผลักดันชุมชนเมืองมายให้เป็นชุมชนเศรษฐกิจหมุนเวียนต้นแบบ โดยร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย” วรการ พงษ์ศิริกุล ผู้อำนวยการโรงงานปูนลำปาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง SCG อธิบายถึงแนวคิดและวิธีการทำงานร่วมกับชุมชน พร้อมทั้งคณะทำงานยังได้รวบรวมข้อมูลและสำรวจสภาพพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับระบบนิเวศ สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ 6 หมู่บ้านของตำบลเมืองมาย เพื่อนำไปสู่การวางแผนพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ยังได้ส่งเสริมการใช้และบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า พร้อมยกระดับความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นของชุมชนเมืองมาย เช่น หัตถกรรมจักสาน ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และมีการสืบทอดกันแบบรุ่นสู่รุ่น
จากแนวคิดและแนวทางปฏิบัติของชุมชนเมืองมายตามแนวทางต้นแบบเมืองนิเวศ ส่งผลให้ในปี 2563 ชุมชนเมืองมาย มีผลการประเมินทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนเชิงนิเวศครบทั้ง 19 ตัวชี้วัด ตามเกณฑ์การประเมินของกองสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่เฉพาะ ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มขึ้นเป็น 70% จาก 53% ในปี 2562 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ ECO CITY โดยมีการปฏิบัติที่โดดเด่น ทั้งในเรื่องของ
1. ต้นทุนทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การส่งเสริมการปลูกไผ่ ส่งเสริมการรักษาทรัพยากรป่าไม้ และการทำฝาย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดิน และต่อยอดไปถึงการกักเก็บน้ำสำหรับเกษตรกรรม
2. การลดมลพิษ ด้วยการจัดการขยะครัวเรือนตั้งแต่ต้นทาง พร้อมส่งเสริมให้มีธนาคารขยะในชุมชน และต่อยอดการนำขยะไปหมุนเวียนสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น นำถุงกาแฟหรือถุงนมมาทำความสะอาด และแปรรูปเป็นกระเป๋า ผ้ากันเปื้อน นำฝากระป๋องน้ำอัดลมมาประดิษฐ์เป็นกิ๊บติดผม นำเศษอะไหล่และเศษเหล็ก มาต่อเป็นหุ่นยนต์ รวมถึงการรับซื้อฟางข้าวและแกลบจากชุมชน เพื่อนำมาเป็นพลังงานทดแทนในโรงงาน ซึ่งช่วยลดการเผาทิ้งได้กว่า 4,316 ตัน รวมถึง
3. การส่งเสริมคุณภาพชีวิต เช่น การพัฒนาที่ดินทำกิน การส่งเสริมอาชีพกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตะกร้าจักสานเมืองมาย การส่งเสริมสาธารณสุขชุมชน ตลอดจนการเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว เป็นต้น
4. การป้องกันภัยภิบัติ โดยชุมชนได้ร่วมร่างแผนป้องกันภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมและดินถล่ม กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
ความสำเร็จของต้นแบบเมืองนิเวศ (ECO CITY) ที่ตำบลเมืองมาย จ.ลำปาง ซึ่งคำนึงถึงการพัฒนาที่สอดคล้องกับระบบนิเวศ การสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชน ควบคู่กับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน SCG โดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย พร้อมด้วยหน่วยงานราชการท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง จึงได้ส่งมอบแผนผังชุมชนเชิงนิเวศเมืองมาย อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
จากวิถีการดำเนินชีวิตและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมืองมาย รวมทั้งการดำเนินงานเหล่านี้ ถือเป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามแนวทางดำเนินธุรกิจของ SCG ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าสังคมและชุมชนที่เข้มแข็งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป