เปิดครัว Fermier ร้านอาหารแนว Self-sustainable เสิร์ฟความอร่อยจากฟาร์มหลังบ้านสู่โต๊ะอาหาร

รสชาติอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจร้านอาหารเพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในยุคที่เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อมก็คงหนีไม่พ้นแหล่งที่มาของวัตถุดิบประกอบอาหาร รวมถึงสตอรี่ของร้านอาหารที่สื่อให้เห็นว่าร้านอาหารดังกล่าวให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด


Fermier เป็นร้านอาหารประเภท fine dining ขึ้นชื่อตั้งอยู่ในเมือง Pretoria ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งลูกค้าต้องใช้ความพยายามในการจองโต๊ะหลายสัปดาห์เพื่อจะได้เข้าไปนั่งลิ้มรสอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านที่ได้รับการการันตีความอร่อยด้วยรางวัล Eat Out Awards ในปี 2018 โดยมีเชฟ Adriaan Maree เป็นผู้รังสรรค์ศิลปะบนจานอาหารหน้าตาน่ารับประทานที่มาพร้อมกับรสชาติอันโอชะที่รังสรรค์ความอร่อยในห้องครัวแบบเปิดด้วยวัตถุดิบจากฟาร์มหลังครัวของเขา

เชฟ Adriaan Maree สั่งสมประสบการณ์การสร้างสรรค์ความอร่อยด้วยการเริ่มต้นเป็นนักเรียนทำอาหารที่ Prue Leith Chefs Academy ในเมือง Centurion หลังสำเร็จการศึกษา เขาก็ได้ต่อยอดความรู้ด้วยการทำงานเป็นเชฟที่ The Western Cape at Grande Provence ซึ่งเป็นสถานที่พักที่มีชื่อเสียงด้านไวน์ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับร้านอาหารที่มีชื่อเสียงนอกประเทศแอฟริกาใต้ เช่น Wild Honey และ Hibiscus ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับมิชลิน สตาร์ ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ


ด้วยประสบการณ์การรังสรรค์ความอร่อยตลอดหลายปีที่ผ่าน เขาจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารของตัวเองชื่อว่า Fermier ที่เกิดจากแนวคิดในการสร้างสรรค์ Self-sustainable ด้วยการสร้างระบบนิเวศน์ทั้งระบบในการทำร้านอาหาร เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงปลา ปลูกผัก ไปจนถึงการทำปศุสัตว์ ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดการทำฟาร์มที่มีความรับผิดชอบและมีจิตสำนึกเพื่อปกป้องระบบนิเวศน์ที่อ่อนไหว ที่แม้กระทั่งขยะก็ยังสามารถนำเอามาใช้ประโยชน์ได้

แม้กระทั่งอาคารของร้านอาหารสร้างขึ้นมาจากดินที่เคยทำบ่อปลาล้อมรอบด้วยกำแพงดินและหุ้มด้วยไม้รีไซเคิล สำหรับเมนูอาหารจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับผลิตในฟาร์ม และเมนูของที่นี่ไม่ได้ใช้เพียงแค่ส่วนของเนื้อมาประกอบอาหารเหมือนที่อื่น ๆ แต่เชฟ Adriaan จะใช้ทุกส่วนตั้งแต่จมูกยันหางนำมาประกอบอาหารเพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์และแน่นอนว่าเป็นการตอกย้ำการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่าอีกด้วย

เชฟ Adriaan กล่าวว่า “ส่วนประกอบนับเป็นดาวเด่นของแต่ละเมนู หากคุณมีส่วนประกอบที่ถูกต้อง คุณก็จะไม่ต้องใช้ความพยายามเกินความจำเป็นเพื่อให้อาหารจานนั้นเด่นขึ้นมา เรามักจะมองไปที่ส่วนประกอบอาหารว่าเราสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง”

แม้ว่าหน้าตาอาหารอาจจะดูธรรมดา แต่ด้วยการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ ความซับซ้อนและความลึกซึ้งของรสชาติที่ใส่ลงไปในอาหารแต่ละจานจะตรึงใจและเซอร์ไพรส์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี อาหารที่เสิร์ฟแต่ละจานมีพอร์ชั่นเล็ก ซึ่งมีทั้งสิ้น 9 คอร์ส ราคา 550 แรนด์ต่อคน จัดคู่เสิร์ฟกับไวน์รสเยี่ยม ราคา 350 แรนด์ต่อคน

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่มีอยู่ในฟาร์มมีจำนวนมากกว่าที่เราคิดว่าเราจะสามารถทำได้ และยังน้อยไปกว่าความต้องการของเราอยู่มาก” “เรายังพยายามเลี้ยงหมูที่นี่ และมันก็ได้ผลดี เพราะไม่มีอะไรกลายเป็นขยะเลย แต่มันก็กลายเป็นปัญหาที่มากเกินไป”

Credit : www.timeslive.co.za/sunday-times/lifestyle/food/2018-01-14-fermier-the-restaurant-thats-leading-in-earth-to-table-culinary-delight/

Stay Connected
Latest News