ณ วินาทีคงไม่มีบ้านไหนที่ไม่พูดถึงเรื่องค่าไฟตั้งแต่ที่หลายๆบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) บางบ้านถึงขนาดต้องร้องโอ้ยเมื่อเห็นใบเสร็จค่าไฟ แต่ในเมื่อการอยู่บ้านเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการหยุดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เราจึงขอนำเสนอทิปง่ายๆในการลดค่าไฟ
ห้องนั่งเล่น
– ลดความสว่างของโทรทัศน์ลง
– เปิดโหมดประหยัดพลังงานเมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
– เมื่อชาร์จไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าพกพา เช่น โทรศัพท์ แท็บแล็ต หรือไอแพด ให้ปิดเครื่องเมื่อเครื่องไม่ได้ใช้งาน
– เมื่อสตรีมมิ่งคอนเท้นท์ให้เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนคนดู หลีกเลี่ยงการสตรีมมิ่งบนเครื่องเล่นวีดิโอเกมซึ่งใช้พลังงานมากกว่า 10 เท่าของการสตรีมบนแลปท้อปหรือแท็บแล็ต
– ปิดไฟ พัดลม หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆทุกครั้งเมื่อออกจากห้อง
ห้องน้ำ
– ปรับอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่นให้อยู่ที่อุณหภูมิ 120 องศาฟาเรนไฮท์ (ประมาณ 49 องศาเซลเซียส) เพราะหากอุณหภูมิถูกตั้งไว้ที่ 140 องศาฟาเรนไฮท์ (60 องศาเซลเซียส) หรือสูงกว่านั้น จะกินค่าไฟถึง 60 เหรียญต่อปี
– ปิดสะพานไฟเครื่องทำน้ำอุ่นทุกครั้งที่คุณเสร็จกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำอุ่น และเปิดสะพานไฟ 1 ชั่วโมงก่อนการเริ่มใช้งาน น้ำร้อนจะยังคงอยู่ในสถานะร้อนได้นานถึง 24 ชั่วโมง
– ปิดพัดลมดูดอากาศ 15 นาทีหลังอาบน้ำเสร็จ
ห้องซักผ้า
– ซักผ้าด้วยน้ำเย็น
– โยนลูกเทนนิส 2-3 ลูกในเครื่องปั่นแห้งเพื่อลดเวลาการปั่นแห้ง
– ใช้ถังปั่นแห้งที่เป็นระบบออโต้มีเซนเซอร์จับความชื้นแทนการตั้งเวลา
– ทำความสะอาดแผ่นกรองเพื่อให้การหมุนเวียนของอากาศดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของถังปั่นแห้ง
ห้องครัว
– ปัดฝุ่นออกจากคอยล์ของตู้เย็นเพื่อให้การทำความเย็นมีประสิทธิภาพ
– ปิดปากขวดเครื่องดื่มและห่ออาหารให้เรียบร้อยก่อนเอาเข้าตู้เย็น เพราะอาหารที่ไม่ห่อหรือเครื่องดื่มที่ไม่ปิดปากขวดจะปล่อยความชื้นออกมาทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น
– ไม่เปิดเตาอบในขณะที่เครื่องกำลังใช้งานเพราะจะทำให้สูญเสียพลังงาน
– ปิดฝาหม้อทุกครั้งที่ทำอาหารและตั้งเวลาหรืออุณหภูมิตามข้อแนะนำ
– ทำกับข้าวหลายๆมื้อในครั้งเดียว
– ใช้เตาอบไมโครเวฟหรือเตาอบขนาดเล็กแทนการใช้เตาอบขนาดใหญ่
– ใช้เครื่องล้างจานเมื่อมีปริมาณจานสกปรกเยอะมากพอ
อื่นๆ
– ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 78-80 องศาฟาเรนไฮท์ (25-26 องศาเซลเซียส) และไม่ควรสูงกว่า 84 องศาฟาเรนไฮท์ (28 องศาเซลเซียส) การเพิ่มอุณหภูมิเพียงแค่ 2 องศาจะเพิ่มค่าใช้จ่ายสูงถึง 5%
– เปลี่ยนหลอดไฟห้องนอนเป็น ENERGY STAR (หรือหลอดประหยัดไฟเบอร์ 5)
– เปลี่ยนหรือทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศทุกๆเดือน เพราะแผ่นกรองที่สกปรกจะเพิ่มค่าไฟประมาณ 20%
– เปิดพัดลมขณะอยู่ในห้องเพื่อให้อากาศหมุนเวียนและทำให้อากาศในห้องเย็นขึ้น
– ปิดม่านกันแดดในช่วงระหว่างวันเพราะรังสีจากพระอาทิตย์จะทำให้บ้านร้อน
SD Thailand หวังว่าทิปดีๆนี้จะช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานอย่างประหยัดแถมยังได้ประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย
credit : https://kua.com/blog/tips-to-reduce-household-energy-use-during-covid-19-pandemic/
