จากเหตุการณ์วิกฤติไฟป่าในออสเตรเลียที่เริ่มลุกไหม้เมื่อมิถุนายนปีที่ แล้วยังคงลามต่อเนื่องข้ามปีมาจนถึงบัดนี้ซึ่งยังไม่รู้ว่าไฟมหันตภัยนี้จะดับมอดลงเมื่อไหร่ ความเสียหายของไฟป่าออสเตรเลียกินพื้นที่กว่า 10.7 ล้านเฮกตาร์ หรือ 26 ล้านเอเคอร์ คร่าชีวิตสัตว์ป่าไปนับล้านๆตัว บ้านเรือนเสียหายกว่า 5,900 หลังคาเรือนและมีผู้เสียชีวิตกว่า 29 คน
เหตุการณ์ไฟป่านี้ส่งผลให้นักดับเพลิงในออสเตรเลียต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะดับไฟในแต่ละจุดให้ทันท่วงทีและบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากไฟป่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่เราได้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของหลายๆองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักการเมือง เซเลบริตี้ และนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่ให้ความช่วยเหลือทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์
Unilever Australia เป็นหนึ่งองค์กรที่ร่วมมือกับ Foodbank ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมาตลอด ได้บริจาคผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทคิดเป็นเงินกว่า 400,000 เหรียญสหรัฐฯ เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น Rexona แชมพู Tresemme ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย Radox ชาลิปตัน น้ำยาซักผ้า Drive Laundry ผลิตภัณฑ์อาหาร Continental Cup-a-Soup และผลิตภัณฑ์ Vaselineให้กับครอบครัวที่ได้รับความเสียหายและเจ้าหน้าที่ส่วนหน้ารวมถึงอาสาสมัคร
นอกจากนี้ แบรนด์ในเครืออย่าง T2, Ben & Jerry และ Vaseline ได้บริจาคเงินสด 60,000 เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่สภากาชาดออสเตรเลีย และบริจาคเงินอีก 10,000 เหรียญสหรัฐฯแก่ Foodbank และยังเป็นแกนหลักในการสนับสนุนการบริจาคของลูกค้าผ่านเครือข่ายค้าปลีก Ben & Jerry
“เราก็เหมือนอีกหลายๆคนทั่วโลกที่ใจสลายเมื่อทราบข่าวไฟไหม้ป่าที่ร้ายแรงครั้งประวัติศาสตร์นี้ เราเชื่อว่าภาคธุรกิจสามารถมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยบรรเทาและฟื้นฟู และเราเองก็อยากช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับความเสียหายให้ข้ามผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากครั้งนี้ไปให้ได้” โฆษกบริษัทUnilever กล่าว
ขณะที่ บริษัทเอเจนซี่ DDB Australia ได้ร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง McDonald’s, Volkswagen Group และ Westpac ในการทำแคมเปญ “The Burnt Christmas Tree” เพื่อระดมทุนให้กับสภากาชาดออสเตรเลียในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว
โดย The Burnt Christmas Tree สร้างสรรค์มาจากท่อนไม้ กิ่งไม้และพุ่มไม้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟป่าในพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ และประดับประดาต้นไม้ด้วยวัตถุต่างๆที่ถูกเผาไหม้ เช่น ประตูฟาร์มและจักรยาน และนำล้อแม็กจักยานที่ถูกเผามาประดับส่วนยอดของต้นคริสต์มาส
ซึ่งในระหว่างที่ผู้คนหยุดชมความงดงามของต้นคริสต์มาส พวกเขาจะได้ยินเสียง Audio ที่บอกเล่าประสบการณ์ของชาวออสเตรเลียที่ตกทุกข์ได้ยากจากปัญหาไฟป่าครั้งนี้
“สิ่งแรกที่แบรนด์ควรทำคือสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนเข้าร่วมอย่างจริงใจ เพราะนั่นก็คือหายนะทางนิเวศวิทยาครั้งใหญ่ที่สุดที่ออสเตรเลียเผชิญกับช่วงเวลาฟื้นฟูที่คาดไม่ถึงมาก่อน” Dom Hickey หัวหน้าฝ่ายวางแผน เอเจนซี่ DDB Australia กล่าวกับ The Drum
นอกจากนี้ Dom ยังชี้ให้เห็นอีกว่าขณะที่ทุกคนอยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งหากแบรนด์สามารถทำบางสิ่งที่มีประโยชน์และสามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด ก็จงทำมันซะ ในทางกลับกัน หากแบรนด์ไม่สามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ การบริจาคเป็นตัวเงินก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ซึ่งเธอได้ยกตัวอย่างวิธีการให้ความช่วยเหลือของสายการบิน Qantas ที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่บริษัทมี ในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และนักดับเพลิงไปยังพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม SD Thailand ขอชื่นชมองค์กรต่างๆที่มีส่วนร่วมในการบรรเทาภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นในออสเตรเลีย และเป็นกำลังใจให้ชาวออสเตรเลียผ่านพ้นความยากลำบากในครั้งนี้ด้วยสวัสดิภาพ
Credit :www.thedrum.com/news/2020/01/13/how-brands-unilever-mcdonalds-and-wpp-are-responding-australias-bushfire-crisis?utm_campaign=Newsletter_Daily_APAC&utm_source=pardot&utm_medium=email
