เมื่อหลายวันก่อน วงร็อกชื่อดังจากอังกฤษอย่าง Coldplay ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มล่าสุด “Everyday Life” เนื่องจากคอนเสิร์ตได้สร้างผลกระทบเชิงลบให้กับสิ่งแวดล้อม
โดย Chris Martin หัวหน้าวงได้กล่าวกับ BBC ว่าวง Coldplay จะใช้เวลาในการหาวิธีเพื่อการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งต่อไปที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด และปลอดขยะประเภทพลาสติกใช้ครั้งเดียว โดยทางวง Coldplay ได้จัดการแสดงเพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน จำนวน 2 ครั้งและที่ London’s Natural History Museum ในกรุงลอนดอนภายใต้ชื่อ “Environmental charity”
นับเป็นความพยายามของวง Coldplay ในการร่วมกันระดมความคิดเพื่อหาทางลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่ง David Holmes ผู้จัดการวงได้กล่าวกับ Billboard ว่าทางวงมีแผนที่จะร่วมประชุมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะลงทุนในโครงการที่ได้ผลดีกว่าการชดเชยคาร์บอน โดยเป้าหมายหลักของ Coldplay คือการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ของแฟนๆเพลง และเพื่อให้การทัวร์คอนเสิร์ตเป็นไปตามความคาดหวังในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ทางวงยังได้คิดที่จะสนับสนุนทางการเงินให้การขนส่งสาธารณะหรือบริการ ride-sharing ให้กับแฟนๆ ที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของพวกเขาด้วย
การทัวร์คอนเสิร์ต “Head Full of Dreams” ของวง Coldplay ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตที่สร้างรายได้สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ในปี2018 โดยขายตั๋วคอนเสิร์ตได้ถึง 5.4 ล้านใบทั่วโลก คิดเป็นเงิน 523 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับได้ว่าวง Coldplay ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 ปีที่แล้วทางวงได้นิยามความหมายของ “ความสำเร็จ” ไว้ใหม่ว่า “ความสำคัญของโลกต้องมาก่อนผลประโยชน์”
อย่างไรก็ตาม วง Coldplay ได้เลื่อนการทัวร์คอนเสิร์ตหลายรอบมาก ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่การตัดสินใจในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยแก้ไขภาวะวิกฤติที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ทั้งนี้ Coldplay ได้บอกแฟนๆให้วาดฝันถึงสรวงสวรรค์ ซึ่งพวกเขาจะทำให้เห็นว่าสวรรค์นั้นมีลักษณะเป็นอย่างไรด้วยการลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Credit:https://therising.co/2019/11/24/coldplay-stop-touring-until-its-concerts-are-actively-beneficial-to-the-environment/