หากเอ่ยชื่อ Greta Thunberg ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสาวน้อยนักเคลื่อนไหววัย 16 ปี ชาวสวีเดน ที่พยายามผลักดันให้คนทั้งโลกเห็นถึงความโหดร้ายของการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศเพราะอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นได้สร้างความเสียหายอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Greta ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศแห่งองค์การสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งได้ตำหนิผู้นำของนานาชาติที่ทรยศต่อคนรุ่นเยาว์ด้วยการนิ่งเฉยต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เป็นภัยคุกคามโลกของเราอยู่ในขณะนี้
Greta นับเป็นแบบอย่างของคนรุ่นเยาว์ที่ต้องการให้ผู้ใหญ่ได้เห็นปัญหาและได้ยินข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนที่ออกมาประท้วงเพื่อปกป้องโลกใบนี้ ซึ่งก่อนหน้าที่การประชุมผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติจะมีขึ้นได้เกิดการรวมกลุ่มประท้วงของนักเคลื่อนไหวเยาวชนทั่วโลกที่มีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องการให้ผู้ใหญ่เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนและร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีให้พวกเขา โดย Marie-Lou Sahai อายุ 15 ปี นักเคลื่อนไหวที่โดดเรียนเพื่อมาประท้วงในปารีส ได้กล่าวว่า “หนทางเดียวที่จะทำให้คนยอมฟังคือการประท้วง”
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา Greta ได้พูดตอกย้ำเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ถึงข้อเรียกร้องระหว่างเดินขบวนว่า “พวกเขามีโอกาสที่จะดำเนินการบางอย่างได้และพวกเขาก็ควรทำมันให้เกิดขึ้น มิเช่นนั้น พวกเขาควรรู้สึกละอายใจ”
ก่อนที่โลกเราจะเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียส (1.8 องศาฟาเรนไฮท์) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งสิ้น ซึ่งภาวะโลกร้อนจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกหลายๆด้าน เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล คลื่นความร้อนที่สูงขึ้น ภาวะแห้งแล้ง พายุรุนแรง และน้ำท่วม และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเราหากเรายังเพิกเฉยกันอยู่
อย่างไรก็ตาม เสียงเล็กๆที่ทรงพลังของเยาวชนเป็นสิ่งสะท้อนให้ผู้ใหญ่ได้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนที่จะทวีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหากเรายังไม่มีมาตรการในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง
credit : mainichi.jp/english/articles/20190921/p2g/00m/0in/036000c