ทำเอง-เก็บเอง-นักเลงพอ “โค้ก”จับมือพันธมิตรเปิดตัว “โค้กขอคืน”อาสากำจัดขยะอย่างยั่งยืน

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย จับมือ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และพันธมิตรลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ “โค้กขอคืน x Central Group Journey to Zero” ในการสนับสนุนและจัดทำระบบส่งเสริมการแยกขยะที่ต้นทางในบริเวณศูนย์การค้าของเซ็นทรัล และนำส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ตลอดจนวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ ที่จัดเก็บได้ให้กับบริษัทพันธมิตรเพื่อนำวัสดุเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง


โดยขณะนี้ ได้มีการทดลองระบบการจัดเก็บนำร่องในร้านอาหารและภัตตาคารในเซ็นทรัล กรุ๊ป ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯอีสต์วิลล์ และสาขา บางนา ได้ 2 เดือนสามารถจัดเก็บขยะรีไวเคิลได้ 2.75 ต้น พร้อมจะขยายระบบการจัดเก็บนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ๆ ในอนาคต

โครงการ ‘โค้กขอคืน’ เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ World Without Waste ของโคคา-โคล่า ที่มุ่งใช้และจัดการบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มอย่างรับผิดชอบ เพื่อลดปัญหาขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักคือ การจัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำกลับมารีไซเคิลในปริมาณเทียบเท่ากับปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อน พ.ศ.2573

 

พรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผนึกกำลังกับเซ็นทรัล กรุ๊ป และเหล่าพันธมิตร kick off โครงการ “โค้กขอคืน x Central Group Journey to Zero” เพื้อจัดเก็บขยะรีไซเคิลอย่างยั่งยืน

โดยในประเทศไทย โคคา-โคล่า มีธุรกิจเครื่องดื่มที่ใช้ขวดแก้วชนิดคืนขวดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ได้เกือบทั้งหมดอยู่แล้ว ฉะนั้น โครงการ ‘โค้กขอคืน’ จึงเป็นการทดลองสร้างระบบการจัดเก็บวัสดุบรรจุภัณฑ์ชนิดที่ไม่เก็บคืน อันได้แก่ ขวดพลาสติก PET กระป๋องอลูมิเนียม ขวดแก้วชนิดไม่คืนขวด และกล่องเครื่องดื่ม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการแยกขยะอย่างเป็นระบบ โดยโคคา-โคล่า ได้จับมือกับสตาร์ตอัพเจ้าของแพลตฟอร์มการจัดเก็บขยะสมัยใหม่อย่าง GEPP ให้เข้ามาช่วยวางระบบ และทำงานร่วมกับทางกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล เพื่อส่งเสริมการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และจัดส่งบรรจุภัณฑ์ให้กับบริษัทผู้รับรีไซเคิลโดยตรง อันจะเป็นการส่งเสริมให้มีการนำวัสดุรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่และลดปริมาณขยะทั้งหมดในภาพรวมตามโครงการ Journey to Zero ของทางกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลอีกด้วย

พรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่าทุก ๆ ปี กลุ่มธุรกิจของโคคา-โคล่า จะต้องใช้บรรจุภัณฑ์เป็นจำนวนมาก เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของเราให้ผู้บริโภคอย่างสะดวก แม้ว่าเราเลือกวัสดุที่นำมาทำบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100 % แต่ยังมีบรรจุภัณฑ์เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้เก็บกลับมาใช้รีไซเคิล เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีการแยกขยะอย่างเป็นระบบ ดังนั้นบรรจุภัณฑ์จำนวนมากจึงถูกทิ้งปะปนกับขยะอื่น ๆ จนไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ กลายเป็นขยะที่ต้องนำไปฝังกลบหรือขยะที่หลุดไปปะปนในสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาขยะทะเลที่โลกกำลังเผชิญอยู่

“ การริเริ่มทำโครงการโค้กขอคืน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสวงหาทางออกเรื่องการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โครงการนี้เป็นการทดลองสร้างระบบจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ทุกวันนี้เราไม่ได้เก็บกลับคืนควบคู่ไปกับการวางระบบการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อนำบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและวัสดุอื่น ๆ กลับเข้ามาสู่ระบบการจัดการขยะรีไซเคิลให้ได้มากที่สุด ในฐานะผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทยตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญในการผลักดันและส่งเสริมให้มีการแยกขยะที่ต้นทาง และนำบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ กลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูปและนำกลับมาใช้

 

พรวุฒิ สารสิน และผู้บริหารในกลุ่ม และพิชัย จิราธิวัฒน์ จากเซ็นทรัล กรุ๊ป

แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีพันธมิตรที่ยินยอมให้เราเข้ามาทำการศึกษา พัฒนา และลองผิด ลองถูก ไปด้วยกัน ซึ่งในส่วนนี้เราต้องขอขอบคุณทางเซ็นทรัล กรุ๊ป และบริษัทพันธมิตรผู้รับซื้อวัสดุรีไซเคิลทุกรายที่ตัดสินใจลงทุนลงแรงมาทำโครงการนี้ด้วยกัน ซึ่งทุกคนทราบดีว่าไม่ใช่งานที่ง่าย และจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบงานหลายอย่าง แต่ก็ยินดีที่จะมาช่วยกันทำเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาขยะ ”

ด้าน พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าตลอดเวลา 72 ปีของการดำเนินธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัลมีนโยบายในการให้ความสำคัญกับการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนการสร้างโลกสีเขียวภายใต้ โครงการ “เซ็นทรัล กรุ๊ป เลิฟ ดิ เอิร์ธ” (CENTRAL Group Love the Earth) เพื่อสร้างประโยชน์ทั้งในระดับองค์กร ชุมชน และมหภาค โดยมีแนวทางในการขับเคลื่อนผ่าน 3 โครงการหลัก ได้แก่ การลดปริมาณขยะและการลดการสร้างคาร์บอน (Journey to Zero) การเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบศูนย์การค้า (Central Green) และฟื้นฟูผืนป่า (Forest Restoration)

“การจับมือของ โครงการโค้กขอคืน x Central Group Journey to Zero จึงเป็นการส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกขยะ และนำวัสดุที่สามารถรีไซเคิลไปพัฒนาต่อให้เกิดประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะดำเนินการผ่านศูนย์การค้าของกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (ซีพีเอ็น) นำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัลพลาซา บางนา ด้วยการนำขยะที่เกิดจากร้านอาหารในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว กลับมารีไซเคิล”

 

 

ขั้นตอนการทำงานในโครงการโค้กขอคืน x Central Group Journey to Zero จะสำเร็จไม่ได้หากขาดความร่วมมือจาก GEPP ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างร้านค้าที่มีวัสดุรีไซเคิลจากการแยกขยะ ผู้รับซื้อวัสดุรีไซเคิล และบริษัทผู้รีไซเคิลวัสดุเหล่านี้ โดย GEPP จะประสานงานให้ผู้รับซื้อเข้าไปซื้อวัสดุรีไซเคิลจากร้านอาหารและภัตตาคารของกลุ่มเซ็นทรัล หลังจากนั้น วัสดุเหล่านี้จะถูกนำส่งและจำหน่ายแยกประเภทให้กับพันธมิตรผู้รับซื้อ อันได้แก่ บริษัทบีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) ผู้รับซื้อวัสดุประเภทแก้ว บริษัทไทยเบเวอร์เรจ แคน จำกัด ผู้รับซื้อกระป๋องอลูมิเนียม บริษัทเวสท์ทีเรียล จำกัด ผู้รับซื้อกระดาษและกล่องเครื่องดื่ม บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ผู้รับซื้อพลาสติกชนิด HDPE, LLDPE, LDPE และ PP และบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้รับซื้อพลาสติกชนิด PET

เนื่องจากโครงการนี้เป็นการขายวัสดุรีไซเคิลให้กับผู้รับรีไซเคิลโดยตรงโดยไม่ผ่านคนกลาง GEPP จึงคาดหมายว่าผู้รับซื้อจะมีกำไรจากการซื้อขายวัสดุรีไซเคิลในโครงการนี้สูงกว่าการซื้อขายทั่วไป ซึ่งทาง โคคา-โคล่า มีนโยบายให้ผู้ดำเนินการจัดเก็บต้องปันกำไรส่วนหนึ่งมาใช้สมทบในการขยายโครงการนี้ต่อไปในอนาคต

ขณะเดียวกันทางเซ็นทรัลเองก็มีนโยบายที่จะมอบรายได้ส่วนหนึ่งที่เกิดจากการดำเนินงานโครงการนี้ เพื่อตอบแทนกลับคืนให้กับทุกภาคส่วนที่ช่วยจัดการและแยกขยะเช่นกัน ระบบการจัดเก็บนี้จึงมิเพียงตั้งอยู่บนหลักการของคุณค่าร่วม (Shared Value) เท่านั้น แต่จะทำให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมจะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมอันเป็นหัวใจของระบบที่ยั่งยืน

 

นันทิวัต ธรรมหทัย ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคบา-โคล่า(ประเทศไทย) จำกัด และมยุรี อรุณวรานนท์ แห่ง GEPP

 

มยุรี อรุณวรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด หรือ GEPP กล่าวว่า “คนจำนวนมากต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะ แต่โครงสร้างและระบบของไทยในปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวย ซึ่ง GEPP จะเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ โดยได้เริ่มจัดการฝึกอบรมให้พนักงานของเซ็นทรัล พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกโดยการช่วยออกแบบพื้นที่ในการแยกขยะในร้านอาหาร การจัดตารางเวลาเพื่อเข้าไปทำการรับซื้อวัสดุรีไซเคิลถึงที่ นอกจากนี้ เรายังรวบรวมข้อมูลการจัดเก็บและซื้อขายทั้งหมดภายใต้โครงการ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ ประเมินผล ตลอดจนวางแผนในการพัฒนาและขยายโครงการอย่างเป็นระบบร่วมกับโคคา-โคล่าและเซ็นทรัลอย่างต่อเนื่อง”

โครงการ“โค้กขอคืน x Central Group Journey to Zero” เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากธุรกิจในส่วนของเซ็นทรัล กรุ๊ป ทั้งร้านอาหารและฟู้ดคอร์ท สามารถเก็บวัสดุรีไซเคิลได้ 2.75 ตัน แบ่งเป็นขวดพลาสติกทุกประเภท 53 % กระดาษ 40 % ส่วนที่เหลือเป็นขวดแก้ว เหล็ก โลหะ ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มขยายการจัดเก็บไปห้างเซ็นทรัลอีกหลาย ๆ สาขา นอกจากนี้ทางโคคา-โคล่า ยังตั้งเป้าจะขยายจุด pick-up point ไปยังสถานที่ชุมชนอื่นๆ ต่อไปเพื่อให้ได้ปริมาณวัสดุรีไซเคิลเพิ่มขึ้น

 

Stay Connected
Latest News

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกมิติ ประกาศความสำเร็จ ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป รวมกว่า 56,000 ตร.ม. ร่วมลดการใช้พลังงานของประเทศ พร้อมสร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม