Zara ประกาศจุดยืนก้าวสู่แฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปี2025

เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลาย เคยสงสัยบ้างมั๊ยว่า นางแบบที่สวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่นไอเท็มสุดล้ำบนแคทวอล์คนั้น นำวัสดุมาจากไหน ใครเป็นคนตัดเย็บ และจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากไอเท็มเหล่านี้กลายเป็น Fast Fashion คือแฟชั่นที่out ไปอย่างรวดเร็ว

ตามรายงานของการประชุม Copenhagen Fashion Summit ระบุว่า ว่า ในแต่ละปีมีปริมาณขยะทีเกิดจาก fast fashion กว่า 92 ล้านตันที่มักจบลงที่หลุมฝังกลบ

Inditex บริษัทแม่ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าประเภท fast fashion สัญชาติสเปนอย่าง Zara ได้ออกมาแถลงถึงกลยุทธ์ใหม่ด้านความยั่งยืนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ Inditex มีแบรนด์แฟชั่นอยู่ในมือถึง 8 แบรนด์ ได้แก่ Zara, Zara Home, Massimo Dutti, Pull&Bear, Bershka, Uterqüe, Oysho และ Stradivarius ซึ่งทั้งหมดนี้มีพันธสัญญาเดียวกันคือการให้คำมั่นที่จะใช้วัสดุในการผลิตที่มีความยั่งยืน เป็นวัสดุออร์แกนิคที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2025

“เราโฟกัสการผลิตเสื้อผ้าตามแนวทางความรับผิดชอบและความยั่งยืนที่จำกัดขอบเขตของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างความท้าทายให้กับบริษัทในการต่อยอดเพื่อปรับปรุงวิธีการผลิต” Marta Ortega ทายาทผู้ก่อตั้ง Inditex กล่าวกับ Vogue “มันเป็นสิ่งที่เราทำด้วยความชอบและเราก็สรรหาทุกวิถีทางเพื่อให้งานออกมาดีกว่าเดิม เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ การนำวิธีการใหม่ๆเพื่อประยุกต์ใช้กับวัสดุรีไซเคิล และร่วมกันสร้างสรรค์วัสดุใหม่ๆที่สามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางที่เรามุ่งมั่นอย่างแท้จริง”

 

 

นอกจากนี้ Inditex ยังส่งเสริมให้สำนักงานใหญ่และสโตร์ทุกแห่งได้รับใบประกาศด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารโดยการนำพลังงานทดแทน 80 เปอร์เซ็นต์มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเชิงนิเวศมากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้วางเป้าหมายเลิกใช้ถุงพลาสติกภายในปีหน้า โดยมาตรการนี้ได้ถูกนำมาใช้แล้วที่ช้อป Zara, Zara Home, Massimo Dutti และ Uterqüe และในปี 2023 บริษัทมีความตั้งใจที่จะนำขยะภายในบริษัทและสโตร์ต่างๆเข้าสู่กระบวนการรียูสและรีไซเคิลทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคเพื่อให้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคนำเสื้อผ้าเก่ามาหย่อนลงในตู้รับบริจาค โดยเสื้อผ้าเหล่านั้นจะถูกนำไปรีไซเคิลหรือรียูส ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะสามารถลดปริมาณขยะเสื้อผ้าในหลุมฝังกลบได้เป็นตันเลยทีเดียว

 

 

credit : https://www.forbes.com/sites/celiashatzman/2019/07/18/zara-reveals-ambitious-new-sustainability-goals/#121ea91d5707

Stay Connected
Latest News