คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกับ Ecover ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากอเมริกา แต่ในโลกของsustainable รวมถึงเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว Ecover มักจะถูกยกให้เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จด้านนี้ มาตลอด 40 ปีของการดำเนินงาน
ทุกวันนี้ Ecover เป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโต 20% ทุกปี สามารถผลิตสินค้าด้านทำความสะอาดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม กระจายไปจำหน่ายกว่า 26 ประเทศทีั่วโลก โดยมีผลประกอบการประมาณปีละ 70 ล้านยูโร
Peter Malaise ตำแหน่ง Concept Manager ซึ่งเป็นกูรูที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Ecover และเป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Ecover ว่าก่อตั้งขึ้นในปี 1980 โดยชาวเบลเยี่ยมที่ชื่อ Franz Bogaert ซึ่งเป็นผู้ผลิตสบู่ที่มีจุดเด่นกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ คือไม่มีสารฟอสเฟต ซึ่งเป็นสารที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อลดความกระด้าวของน้ำ แต่จะมีผลเสียคือทำให้น้ำเน่าเสีย
ทั้งนี้ Peter ได้กล่าวถึงรายงาน Brundtland ในปี ค.ศ. 1980 ที่ได้นิยามความยั่งยืนไว้ว่า “การพัฒนานั้นต้องสามารถตอบสนองความต้องการของโลกปัจจุบันแต่ต้องไม่ไปสร้างผลกระทบให้ในอนาคตกับคนรุ่นต่อไปด้วย”
สำหรับในมุมของ Ecover แล้วนั่นไม่เพียงมีความหมายแค่การสร้างสรรค์และการผลิตสินค้าเพื่อความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังถือเป็นบรรทัดฐานในการสร้างสรรค์และผลิตสินค้าสู่แนวทางความยั่งยืนซึ่งไม่มีวันสิ้นสุดอีกด้วย
เขาเสริมว่า “เราจะไม่มีวันไปถึงจุดหมายปลายทางของคำความยั่งยืนได้ เพราะระหว่างการเดินทางไปซึ่งเราคิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ในที่สุดก็จะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิด ซึ่งคุณจะต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไป เป็นเรื่องที่วนเวียนไปเรื่อย ๆ”
Peter พูดถึวงธุรกิจทั่วไปจะมองเพียงแค่ 3 ด้านหลักๆ (business triangle) ได้แก่ ราคา สินค้า และความสะดวกสบาย แต่สำหรับ Ecover แล้วจะรวมเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเข้าไปด้วย “เราต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายโลก”
ทั้งนี้ Peter เสริมว่า “ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดจาก Ecover ที่มีผลรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. 2006 ได้มีงานวิจัยเกี่ยวกับสารตกค้างของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นคู่แข่งของ Ecover ผลวิจัยชี้ให้เห็นว่าผงซักฟอกของผู้นำตลาด 3 ราย ทิ้งสารตกค้าง 10% หลังการย่อยสลายในสิ่งแวดล้อม แต่ผลิตภัณฑ์ของ Ecover ไม่มีสารตกค้างเหลือเลยเพราะจะถูกย่อยสลายไปอย่างสมบูรณ์”
“ปัญหาขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปมองข้าม ลองมองไปที่ทะเลที่คนเกือบทั้งโลกปล่อยให้สาร Dioxane (สารสังเคราะห์เลียนแบบมะพร้าวที่มีความเข้มข้นสูง สามารถซึมลงสู่ผิวได้ดี แต่ทำให้เกิดมะเร็งได้)) ลงสู่ใต้ท้องทะเลทุกๆวัน” ซึ่ง Peter เชื่อว่านวัตกรรมแห่งอนาคตจะมีตัวเลือกอื่นๆที่จะมาแทนกระบวนการผลิต Dioxane แต่การพัฒนาในส่วนนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ “การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยียังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่มันจะเกิดขึ้นแน่นอน บ่อยครั้งที่คนไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เราเป็นเสมือนผู้เปิดประตูแห่งความหวัง เราไม่ต้องการผู้ที่ยึดมั่นในหลักการด้านสิ่งแวดล้อม (eco-fundamentalism) แต่เราต้องการผู้ที่มองสิ่งแวดล้อมตามสภาพความเป็นจริง (eco-realism)”
อย่างไรก็ตามPeter กล่าวสรุปว่า Ecover ก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็กำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างผลความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
“ไม่มีโรงเรียนไหนสอนเรื่องผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง และเราก็พัฒนามันขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เราก็ดีกว่าเมื่อ 28 ปี หรือ 10 ปี หรือ 5 ปีที่แล้วมาก เพราะว่าการฝึกฝนจะทำให้เรามีทักษะเพิ่มขึ้น” Peter กล่าวสรุป
credit : https://www.treehugger.com/green-food/treehugger-gets-the-inside-view-on-ecovers-eco-friendly-cleaning-products.html
