วงการโฆษณายักษ์ใหญ่ ร่วมมือสู้การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ

กระตุ้นการปฏิบัติร่วมกันอย่างเร่งด่วนเพื่อประกาศเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเริ่มต้นที่กลุ่มคน Gen Z ประมาณ 17 ล้านคนที่จะมีสิทธิในการออกเสียงด้านสภาพภูมิอากาศ และปัญหาสังคมต่างๆ

นับเป็นความร่วมมือ  ของ 17 องค์กรด้านการตลาด วงการโฆษณาและเอเจนซี่ด้านการสื่อสารที่ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศชั้นนำและองค์กรไม่หวังผลกำไรในการใช้ประโยชน์จากอินไซท์ของผู้บริโภค และความคิดสร้างสรรค์

ความร่วมมือกันภายใต้ชื่อ Potential Energy ซึ่งเป็นความร่วมมือของบริษัทต่างๆ ได้แก่ Barton F. Graf, CAA, Digitas, Droga5, Hill Holiday, Lippincott, Maslansky+Partners, MRM//McCamm, mssngpeces, Oberland, One Hundred, POSSIBLE, Purpose, R/Ga, WME, Work&Co และ Zenith โดยกลุ่มความร่วมมือนี้ได้ถูกบ่มเพาะขึ้นมาโดยการให้คำปรึกษาด้านการสร้างสรรค์อย่างเช่น Lippincott และ John Marshall หัวหน้าเจ้าหน้าที่กลยุทธ์ พร้อมด้วย Dan Schrag ผู้อำนวยการศูนย์ Harvard Center for the Environment ซึ่ง Potential Energy มีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ พูดง่ายๆ ก็เพื่อลดผลกระทบในระยะยาวและระดมให้เกิดการปฏิบัติ

ทั้งนี้ ความสำเร็จขององค์กรในช่วงระยะเวลาห้าปีจะวัดได้โดยการขยายขนาดและพลังของกลุ่มผู้ลงคะแนนเสียงที่มีส่วนสำคัญในการลงคะแนนเสียงเป็นจำนวนมากจาก 6 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 10 ล้านคนภายในปี ค.ศ. 2023

ความริเริ่มแรกของ Potential Energy ที่ได้เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมคือโครงการ Donate:60 ซึ่งโครงการที่นำโดยนักศึกษาทั่วประเทศ เป็นผู้นำโดยขอให้นักการเมือง และผู้นำระดับชั้นนำ เสนอสุนทรพจน์เริ่มต้น 60 วินาทีในประเด็นสำคัญที่สุดในยุคของพวกเขา ได้แก่

1.การดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
2.ความปลอดภัยจากความรุนแรงในการใช้ปืน
3.ความเท่าเทียมกันระหว่างเชื้อชาติ เพศและรสนิยมทางเพศถูกเพิ่มขึ้นมาเป็นประเด็นที่นักเรียนนักศึกษาต่างรู้สึกว่าถูกบังคับอยู่

นักศึกษามากกว่า 250 คน ได้รับฟังการเรียกร้องให้มีการดำเนินโครงการซึ่งครอบคลุม 136 เมืองใน 24 รัฐ ซึ่งแคมเปญดิจิทัลนี้ ได้ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเป็นหลักเพื่อเผยแพร่ข้อความของ #donate60seconds และเข้าถึงนักเรียนที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนหลายพันคนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา

“ความพยายามนี้เป็นเอกลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมของเรา” John Marshall ประธานแห่ง Potential Energy และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์แห่ง Lippincott อธิบาย “เรากำลังระดมทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้ก่อนหน้านี้เพื่อใช้ในสิ่งที่ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเผชิญในสังคมจากจุดได้เปรียบของเราในฐานะนักการตลาด เราเชื่อว่าอเมริกาอยู่ใกล้จุดกลยุทธ์และเราต้องการทำทุกอย่างเพื่อนำส่งข้อความที่ถูกต้องออกไป”

“การทำงานร่วมกับนักศึกษา ทำให้การรณรงค์ครั้งนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คนรุ่นนี้ตื่นขึ้นมาและหลงใหลกล้าหาญมาก การได้ร่วมงานกับเอเจนซี่ต่างๆ เพื่อนำไอเดียมาใช้นั้น ช่างมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก และมันช่างดีเหลือเกินที่ได้ทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่” Casey Rand ตำแหน่ง Group creative director แห่ง Droga5 กล่าวกับ AdWeek

การทำงานร่วมกับองค์กรไม่หวังผลประโยชน์อย่าง Alliance for Climate Education, The Brady Campaign และ Women’s March Youth EMPOWER, Potential Energy agencies Barton F. Graf, Digitas, Droga5, m ss ng p eces, Lippincott and Zenith ได้เป็นผู้นำจากเยาวชน 100 คนทั่วประเทศที่เรียกร้องให้เกิดการดำเนินการ แต่ต้องการความช่วยเหลือให้ข้อความของพวกเขาได้รับการเผยแพร่ ทางเอเจนซี่ได้จัดเตรียม Pro-Bono Creative Talent การดีไซน์แบรนด์ การดีไซน์เว็บไซต์ กลยุทธ์ด้านโซเชียลมีเดีย การพัฒนาข้อความ การผลิตวิดีโอ แอนิเมชั่น และอื่นๆ

“การสื่อสารด้านความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ยากลำบากมานานหลายทศวรรษ” Schrag กล่าว “เรามองโลกในแง่ดีว่าการนำพลังอำนาจของทักษะที่ดีที่สุดมาใช้กับ Madison Avenue สามารถสร้างแนวทางใหม่ ๆ ที่เราต้องการเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้นำไปปฏิบัติต่อไป”

ตามที่ Marshall ได้บอกกับ Fast Company แนวทางของ Potential Energy จะมุ่งเน้นการสร้างศักยภาพทางธุรกิจและนวัตกรรมสำหรับการหาแนวทางแก้ไข และเขายังเสริมว่า “ระบบพลังงานของโลกทั้งระบบต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน”

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของอุตสาหกรรมในการสร้างความร่วมมือด้านปัญหาสภาพภูมิอากาศให้สาธารณชนได้รับรู้และเข้าใจเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ โดยในเดือนมีนาคม World Wildlife Fund ได้ท้าทายอุตสาหกรรมการตลาดในการใช้อิทธิพลการตลาดเพื่อช่วยเผยแพร่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นด้วยการสร้างสรรค์ Project Extraordinary ซึ่งเป็นวิดีโอชาเล้นจ์ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ผ่านหนังสั้นที่จะสร้างกระแสความยั่งยืนและกระตุ้นให้ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกจับจ่ายโดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก

ที่มา

Stay Connected
Latest News