กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดโมเดลธุรกิจพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่บริษัทไทยที่ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

TCP พลิกโฉมเดินหน้าสู่องค์กรพัฒนาที่ยั่งยืนแบบบูรณาการ พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์ความยั่งยืน 3 มิติ ตอกย้ำแบรนด์ไทยยิ่งใหญ่บนเวทีโลกต้องดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ

 

สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP

กลุ่มธุรกิจ TCP เจ้าของตำนานเครื่องดื่มบำรุงกำลังของคนไทยที่ดำเนินธุรกิจยาวนานถึง 6 ทศวรรษ ปัจจุบันเป็นกลุ่มธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งเป็นเจ้าของ เป็นผู้ผลิต และเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ และซันสแนค ประกาศเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมผนึกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทาง ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ร่วมกันขับเคลื่อนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า “ปี 2560 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ประกาศเดินหน้าแผนธุรกิจ 5 ปี เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่ได้รับการ ชื่นชมที่สุดของไทย โดยการลงทุน 10,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของกลุ่มธุรกิจของเราให้แข็งแกร่ง เป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์” ที่ทรงพลัง และการผลักดันยอดขายให้โตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท”

 

“สำหรับในปี 2561 นี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผน 5 ปีระยะที่ 2 โดยการประกาศเป้าหมายที่มุ่งเน้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ TCP โดยแบ่งเป็น 3 เสาหลักคือ Integrity, Quality และ Harmony ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ”

 

(จากซ้าย) อเล็กซ์ เรนเดล ดารานักแสดง และ TCP Spirit Ambassador 2018 ,วรวัฒ์ ศรียุกต์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอย่างยั่งยืน กลุ่มมิตรผล , สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ , นุชรี อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ TCP และนุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ร่วมแบ่งปันมุมมองด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับพนักงานกลุ่มธุรกิจ TCP

 

สราวุฒิกล่าวเสริมว่า “Integrity จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากคู่ค้าของเรา บอร์ดของบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ที่ต้องทำงานประสานกันเป็นลักษณะ “อีโคซิสเต็ม” (eco system) ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคม จนกระทั่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นธรรม รวมถึงส่งเสริมให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมีแนวปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงต้องลดความเสี่ยงด้านทุจริตคอรัปชั่นในทุกรูปแบบ พร้อมดำเนินธุรกิจที่เคารพต่อหลักกฎหมายทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจแก่องค์กรในระยะยาว”

 

ส่วนเสาหลักเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเสาที่สอง คือ QUALITY ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงาน และการจัดการสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้เอื้อต่อการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์บริการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย ตามหลักโภชนาการที่ดี ภายใต้ 2ภาระกิจสำคัญที่เรียกว่า คุณภาพสินค้าและบริการ (Quality of Product and Service) และคุณภาพชีวิตบุคคลากร (Quality of Life in Workplace)

 

โดยกลุ่มธุรกิจ TCP จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์บริการให้มีประสิทธิภาพ และพัฒนาผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีความหลากหลาย ปลอดภัย ตามหลักโภชนาการที่ดี และสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน นอกจากนั้นยังจะมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อเป็นองค์กรที่ใช่ในหัวใจพนักงาน (Employer of Choice) โดยการเคารพสิทธิมนุษยชนของพนักงาน ดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ สร้างความผูกพันกับองค์กร รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และความก้าวหน้าในอาชีพ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้คนดี คนเก่ง คนที่มีศักยภาพสูงอยากทำงานกับเรา และอยู่กับเราตลอดไป

 

สราวุฒิ อยู่วิทยา กำลังเกี่ยวข้าว ในโครงการเกษตรอินทรีย์ วิถียั่งยืน

 

เป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนเสาสุดท้ายคือ HARMONY ที่มุ่งเน้นการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทำงานขององค์กร โดยคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้ 2 ภาระกิจสำคัญคือ รักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) และชุมชนยั่งยืน (Socio-Economic Development)

 

ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งมั่นเพื่อทำให้กระบวนการทำงาน กระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า และปลูกจิตสำนึกให้พนักงานเห็นความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งสร้างแนวทางอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันกับชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนั้นยังมุ่งสร้างให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรที่ชุมชนและสังคมยอมรับ ด้วยการสร้างเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น และใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในด้านต่างๆ ในทุกที่ที่มีธุรกิจตั้งอยู่

 

พืชผักเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกรอบ ๆ โรงงาน ตามโครงการเกษตรอินทรีย์ วิถียั่งยืน

 

“กลุ่มธุรกิจ TCP มองเป้าหมายของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนว่าเป็น ‘โอกาส’ ของธุรกิจ เพราะเป้าหมายดังกล่าวจะสนับสนุนให้เราได้พยายามคิดค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคม รวมถึงสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือที่ดีระหว่างองค์กรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจในทุกมิติ ในการสร้างสรรค์กิจกรรม หรือโครงการที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริงตลอดไป” นายสราวุฒิ กล่าว

ส้นทางก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 ของกลุ่ม TCP จึงมิใช่คำนึงถึงการเติบโตด้านผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่สราวุฒิกำลังสร้างโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เป้าหมายคือการยกระดับเป็น “บริษัทไทยที่ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก”

Stay Connected
Latest News

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกมิติ ประกาศความสำเร็จ ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป รวมกว่า 56,000 ตร.ม. ร่วมลดการใช้พลังงานของประเทศ พร้อมสร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม