ชุนชนศรีมหาโพธิยิ้มรับฝายแก้ภัยแล้ง-น้ำหลาก กองทุนฮอนด้าเค้าจัดให้

ปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้วที่กองทุนฮอนด้าฯ รวมพลังจิตอาสามาร่วมสานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ในกิจกรรม “สร้างฝายแกนดินหินก่อ กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร”เพื่อพัฒนาฟื้นฟูฝายกักเก็บน้ำในพื้นที่คลองโสม ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ให้สามารถรับมือกับปัญหาภัยแล้งและป้องกันวิกฤตน้ำหลาก พร้อมผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบในด้านการจัดการและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำให้กับชุมชนอื่น

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร,พิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจ.ปราจีนบุรี ที่ 1และ 2 จากว้าย) ดร.รอยล จิตรดอน ( ที่ 4 จากซ้าย) และผู้นำชุมชน ร่วมกันทำฝาก

 

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยได้จัดตั้งขึ้นภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย เพื่อเป็นกองทุนฉุกเฉินในการช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด อีกทั้งมีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด”

โดยโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ทางกองทุนออนด้าฯร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เริ่มโครงการเมื่อปี 2558 โดยปีนี้เป็นปีที่ 4 ซึ่งได้เชิญชวนอาสาสมัครพนักงานกลุ่มบริษัทฮอนด้า ผู้จำหน่าย และชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่น ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในพื้นที่คลองโสม ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ ด้วยการสร้างฝายหินก่อ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรและการอุปโภคบริโภค รวมถึงการปลูกหญ้าแฝกและพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและป้องกันวิกฤตน้ำหลากให้แก่ชุมชน

 

 

3 ปีจากการดำเนินโครงการในปีนี้ คาดว่าจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์กว่า 226 ไร่ ครอบคลุม 2 หมู่บ้าน รวม 68 ครัวเรือน เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บอีก 33,750 ลบ.ม.

ด้าน ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่ามูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. ร่วมดำเนินงานกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลหัวหว้าและชุมชน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำพื้นที่คลองโสม คลองเส้นหลักของตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ พื้นที่ประสบปัญหา น้ำท่วมและภัยแล้งเป็นเวลานาน

 

พลังจิตอาสา ช่วยยกหินคนละก้อนมาทำฝายเก็บกักน้ำ

 

เนื่องจากแหล่งน้ำมีความตื้นเขินและถูกปกคลุมด้วยวัชพืช ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี จึงต้องได้รับการบริหารจัดการด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้แหล่งน้ำมีประสิทธิภาพในการกักเก็บและสำรองน้ำได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ซึ่งเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว อันจะนำไปสู่การพัฒนาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นต้นแบบการจัดการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำให้กับชุมชนอื่นต่อไป

 

“ ภาคตะวันออกมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจมาก แต่พื้นที่ชลประทานมีเพียง 3 % ที่เหลือ 97 % อยู่นอกเขตชลประทาน เป็นเหตุให้เราต้องร่วมมือกับชุมชนเพื่อบริหารจัดการน้ำในชุมชน” ดร.รอยล กล่าวสรุป

ด้านพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กล่าวถึงหลักการทำงานของกองทุนฮอนด้าว่า “ เราจะเลือกสถานที่ที่เป็นเกิดจากความต้องการของชุมชนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงทำงานร่วมกัน และประเมินผลงาน ปรัชญาคือชุมชนต้องรู้สึกเป็นเจ้าของและหลังจากที่เราเข้าไปปรับปรุงให้แล้ว คนในชุมชนจะต้องทำหน้าที่ดูแลสืบไป เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักของในหลวง รัชกาลที่ 9”

 

จิตอาสาช่วยกันปลูกหญ้าแฝกตามริมคอลง

 

***โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ลุ่มน้ำเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนองแสง ตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จากนั้นในปี 2559 ได้ขยายพื้นที่ไปยังหนองปลาแขยงและคลองบุงกะเบา ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี และปี 2560 ในพื้นที่คลองยาง ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง ซึ่งทางกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยได้ร่วมดำเนินโครงการและสนับสนุนงบประมาณตลอดโครงการทั้ง 4 ปี รวม 26.21 ล้านบาท

และในปี 2561 ได้ดำเนินการขยายพื้นที่มายังบริเวณคลองโสมหรือคลองสมบูรณ์ ซึ่งเป็นคลอง
เส้นหลักของตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ โดยมีการสร้างฝายชะลอน้ำ ฝายกักเก็บน้ำ การปลูก
หญ้าแฝกและพันธุ์ไม้ยืนต้นเพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้งและสภาวะน้ำหลาก ตลอดจนการบวชป่าและการให้ความรู้แก่ผู้คนในชุมชนพื้นที่

คาดว่าหลังจากดำเนินการโครงการครบทั้ง 4 ปี จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ ทำให้มีปริมาณน้ำสำรองในพื้นที่สำหรับชุมชนในการบริโภคอุปโภคและการทำเกษตรกรรมรวม 3,563,500 ลบ.ม.ต่อปี รวมพื้นที่ทั้งหมดที่ได้รับประโยชน์ 17,884 ไร่ และชาวปราจีนบุรีได้รับประโยชน์กว่า 5,043 ครัวเรือน

Stay Connected
Latest News