เมื่อเอ่ยถึงอเล็กซ์ เรนเดล ทุกคนจะรู้จักเขาในมุมของดาราลูกครึ่งหน้าเด็ก ที่เดินเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และยังคงเป็นดาวค้างฟ้าอยู่บนเส้นทางสายบันเทิงจนถึงปัจจุบัน
แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักอเล็กซ์ อีกมุมหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้ว่าเขาชอบดำน้ำ และการดำน้ำก็นำไปอเล็กซ์ไปสู่เส้นทางอีกสายหนึ่งคือ…สายนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่เขาหลงรัก จนเป็น co – founder เปิดสถาบัน eec Thailand เพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังให้เยาวชนหันมารักและหวงแหนธรรมชาติ
**สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เมื่อไหร่**
เดิมไม่สนใจเลยครับ ตอนเรียนม.5 มีวิชา EM – Environmental Management ซึ่ งจะต้องสอบให้ผ่านถึงจะเรียนจบ จำได้ว่าตอนนั้นเลือกเรียนเป็นวิชาสุดท้ายเลย รู้สึกว่ามันไม่เท่ห์ คือคิดว่าการดูแลสัตว์ เราก็ทำเองได้อยู่แล้ว ทำไมต้องเรียนด้วย แต่พอมาทำงานด้านแชริตี้ทางด้านนี้ ต้องมาอยู่กับช้าง มาอยู่กับเด็ก มีความรู้และเห็นกระบวนการทำงานมากขึ้น เห็นภาพรวมมากขึ้น เห็นว่าทุกอย่าง Link กันไปหมด และได้ใช้โซเชียลมีเดียของเราให้เป็นประโยชน์ เมื่อก่อนมีสื่อพวกนี้เอาไว้เล่นขำ ๆ ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ แต่พอเราใช้สื่อพวกนี้ไปในทางที่มีประโยชน์ ถือว่าเราเป็นหนึ่งเสียงในการกระจายบอกต่อเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปยังแฟนคลับ ก็พยายามจะทำตัวให้มีประโยชน์ต่อสังคมเท่าที่มีแรงทำครับ
**สิ่งที่จุดประกายความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม**
เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมเริ่มหัดดำน้ำ ตอนดำลงไปในทำเลครั้งแรก ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลย รู้สึกว่าโลกใต้น้ำสวยมาก ทำให้ผมชอบท่องเที่ยวโลกใต้น้ำมากยิ่งขึ้น สุดท้ายจึงนำไปสู่ความคิดที่อยากจะรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ขอให้ถูกทำลายน้อยที่สุด
**สรุปแล้วได้เรียนวิชาEM มั๊ย**
ไม่ได้เรียนครับ ( หัวเราะ) ผมเรียนจบปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันผมก่อตั้งองค์กร eec Thailand ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย แต่ยอมรับว่าผมไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย ซึ่งผมเป็นผู้บริหารองค์กรควรจะต้องมีความรู้ด้านนี้บ้างเพื่อทำให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน ก็เลยเลือกศึกษาต่อปริญญาโท ด้านสังคมศาสตร์และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วก็ไปเรียนเป็นครูดำน้ำ สอนเทคนิคเด็ก ๆ ให้ดำน้ำ สอนเด็ก ๆ ให้รู้จักโลกใต้น้ำ
**องค์กรeec Thailand ทำอะไรบ้าง**
ผมตั้งองค์กรeec Thailand มา 4 ปีแล้วครับ จัดกิจกรรมเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมให้กับเด็ก ๆ รับทำค่าย CSR ให้กับองค์กร และทำโปรคเจคระยะยาวด้าน CSRให้กับหลาย ๆ องค์กร มีเด็ก ๆ มาเข้าค่ายเยอะ และผมก็พยายามสอนเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีโอกาสที่อยู่นอกเมือง ธุรกิจปีนี้เริ่มดีขึ้น มีผลตอบรับจากลูกค้าเยอะขึ้น
**แผนการอนาคต**
ในอนาคตผมอยากจะเรียนด้านนี้เพิ่มเติมจนถึงปริญญาเอก อาจเลือกเรียนสาขาสิ่งแวดล้อมศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสาขาตรงกับงานที่ทำ คือสิ่งแวดล้อมศึกษาเป็นศาสตร์ ไม่ใช่เป็น Environment Education ที่สอนให้คนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ความจริง มีกระบวนการ ตั้งแต่ Research ไปสู่การอนุรักษ์ในทิศทางที่ยั่งยืน และผมก็สนใจเรื่อง Psychology ของการเจริญเติบโตของเด็กด้วย เพื่อนำไปใช้กับเด็กพิเศษ และเด็กที่ขาดโอกาสทางสังคม ผมสนใจที่จะพัฒนาPlatform กับเด็กกลุ่มนี้ด้วย คือพอมาทำเรื่องเหล่านี้ ทำให้เรามองเห็นอะไรที่น่าในใจอีกมากมาย ก็อยากรู้ไปหมด สะสมไปเรื่อยๆ สักวันเราคงจะมองหาทิศทางของตัวเองได้ ตอนนี้ก็พยายามเรียนรู้ทุกอย่างไปก่อน
แม้จะมีเวลาสนทนากับพระเอกหนุ่มคนนี้ เพียงสั้น ๆ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้ซึมซับกับมุมมองของอเล็กซ์จากคำพูด ร้อยยิ้มและแววตาที่มุ่งมั่น ที่พยายามจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้รักและหวงแหนธรรมชาติ เพื่อส่งต่อพลังของเด็ก ๆ เหล่านี้ไปสู่อนาคตที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีธรรมชาติอยู่ในใจ!
**EEC THAILAND : ENVIRONMENTAL EDUCATION CENTRE THAILAND**
เป็นองค์กรที่ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยตรง มุ่งเน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการให้ความรู้เชิงลึก อย่างสนุกสนาน ผ่านทางกระบวนการการจัดค่าย พาเด็กๆ และสมาชิก EEC Thailand ไปศึกษาสิ่งแวดล้อมและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่มีคุณค่า โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ซึ่งจะมีวิธีการเฉพาะตัวในแบบฉบับของ EEC Thailand เราให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ของเด็กเป็นหลัก เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกเยาวชน รวมถึงบุคคลทั่วไปทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ด้วยความเชื่อเรื่องการมีส่วนร่วมของสาธารณะจะส่งผลสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว EEC จึงถือกำเนิดขึ้นจากการคิดค้น การวิเคราะห์ และสร้างรูปแบบกิจกรรมร่วมสมัยที่เหมาะสมกับการนำพาสังคมไปสู่กระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่จะส่งผลต่อการรับรู้ ความเข้าใจ และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจของผู้คนในการมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรทางธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ดังประโยครณรงค์หลักที่ว่า LET NATURE BE OUR CLASSROOM “ให้ธรรมชาติเป็นห้องเรียนของเรา”
EEC มีความมุ่งหมายในการเข้าถึงสาธารณชนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ในการออกแบบวิธีการและกระบวนการส่ิงแวดล้อมศึกษา ให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้สร้างพลังในการพิทักษ์ทรัพยากรของโลก รวมทั้งการป้องกันและแก้ไขภาวะการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว และใช้ประโยชน์บนหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ข่าวเกี่ยวข้อง
