ลูกค้าของโซเนวา ฟูชิ ล้วนชื่นชอบกับศิลปะเครื่องแก้วอันสวยงาม ที่จัดแสดงไว้ที่ “Soneva Glass Studio” และทุกคนยิ่งประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเบื้องหลังศิลปะที่งดงามนี้คือขยะขวดแก้วที่ถูกนำมารีไซเคิลตามโครงการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง”
โซเนวา กรุ๊ป ผู้ดำเนินกิจการรีสอร์ทหรูชั้นนำของโลก ได้เริ่มโครงการนำพลาสติคใช้แล้วมารีไซเคิล โดยเริ่มที่โซเนวา ฟูชิ ประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการของ “โซเนวา เมคเกอร์ โปรแกรม” โดยโซเนวา ได้ร่วมมือกับ “Precious Plastic” ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับโลกที่ตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์การนำพลาสติคใช้แล้วมารีไซเคิล นำมาตกแต่งโดยใช้วัสดุท้องถิ่นที่ราคาไม่แพงและประดิษฐ์เป็นวัสดุของใช้ขึ้นมา ในอนาคตอันใกล้โซเนวา กรุ๊ปมีแผนจะขยายจะรวบรวมพลาสติคใช้แล้วจากเกาะอื่น ๆ ในมัลดีฟส์มาเข้ากระบวนการรีไซเคิลด้วยเช่นกัน
ขณะนี้ที่ “เอคโค่ เซนเตอร์” ของโซเนวา ฟูชิ สามารถประดิษฐ์เครื่องจักรที่ใช้พลาสติครีไซเคิลเป็นส่วนประกอบขึ้นมาเป็นเครื่องแรก ซึ่งมีทั้งความสวยงามและสามารถใช้งานได้จริง โดย “โซเนวา เมคเกอร์ โปรแกรม” จะมีหน้าที่ชักชวนให้แขก และพนักงานของรีสอร์ท มาร่วมกันรณรงค์การรีโซเคิลพลาสติคนี้ รวมทั้งให้ความรู้กับเยาวชนว่าสิ่งของเหล่านั้นผลิตมาจากอะไร เพื่อเน้นให้ความรู้เรื่องการปั้นขยะให้เป็นทอง Waste-to-Wealth ว่าสามารถทำได้อย่างไร
หลังจากที่โซเนวา กรุ๊ป ได้เข้าร่วมแนวคิดพลาสติกมีค่า กับ Precious Plastic ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก โดยโซเนวา เป็นบริษัทแห่งแรกในมัลดีฟส์ที่นำพลาสติครีไซเคิลมาประดิษฐ์เป็นวัสดุใหม่ ซึ่งเริ่มกระบวนการจำกัดจำนวนการใช้พลาสติคที่รีสอร์ทขึ้น และยุดการใช้ขวดพลาสติคมาตั้งแต่ปี 2551 ถึงกระนั้นก็ยังมีขยะพลาสติคอยู่บ้างจากพัสดุบรรจุอาหาร หรือจากแขกที่มาพัก
“เรามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนมุมมองในเรื่องขยะเสียใหม่ ให้มองพลาสติคเป็นของมีค่าและสิ่งของที่ถูกทิ้งสามารถนำกลับมาผลิตเป็นของใหม่ที่มีประโยชน์ได้” โสนุ ชิฟดาซานี ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งโซเนวา กล่าว
“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่ขับเคลื่อนเรื่องการรีไซเคิลพลาสติคของโลก โซเนวาทำงานรีไซเคิลขยะมานานแล้ว และตอนนี้เราได้ยกระดับของโครงการขึ้นมาอีกด้วยการใช้เครื่องมือรีไซเคิลพลาสติค ซึ่งเราจะรณรงค์ต่อไปให้พนักงานและแขกของโซเนวาได้มีส่วนร่วมในการทำให้ขยะพวกนี้มีคุณค่าขึ้นมา ด้วยการนำมาสร้างเป็นวัสดุใหม่ ๆ”
ทั้งนี้ โซเนวาตั้งเป้าไว้ว่าจะลดปริมาณขยะให้เป็นศูนย์ ซึ่งปัจจุบันสามารถรีไซเคิลขยะจำพวกแก้ว เศษอาหาร เศษไม้ โฟมบรรจุอาหาร ถึง 90% ส่วนอีก 10% ที่เหลือเป็นพวกพลาสติค กระดาษ เศษผ้า และพัสดุใส่อาหาร
ปัญหาเรื่องขยะพลาสติคเป็นเรื่องที่ทราบกันดีในมัลดีฟส์ ว่าปริมาณของขยะเหล่านี้ที่ถูกคลื่นซัดมาบนหาดทรายในทุก ๆ วัน ปัญหาดังกล่าวถือเป็นเรื่องระดับโลกซึ่งได้มีการนำมาถกกันอีกครั้งในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ที่ประเทศเคนยา เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตัวแทนจากหลายประเทศได้ขอให้สหประชาชาติหาทางแก้ไข เพื่อไม่ให้มีขยะพลาสติคในทะเลอีกต่อไป
ทางโซเนวา ฟูชิ เชื่อว่าส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาคือการทำให้เห็นว่าขยะพลาสติคเหล่านั้นคือสามารถนำมารีไซเคิล เพื่อสร้างรายได้ในชุมชนได้ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนช่วยกันเก็บขยะพลาสติคและนำมารีไซเคิล ก่อนที่มันจะมีโอกาสถูกทิ้งลงสู่ทะเล
โซเนวา ตั้งเป้าว่าจะขยายโครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง Waste-to-Wealth ให้กว้างขวางขึ้น จึงสร้างโปรแกรม Soneva Art & Glass ขึ้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากรีสอร์ทอื่น ๆ ในมัลดีฟส์ให้ช่วยเก็บขวดแก้วใช้แล้วส่งมาให้รีไซเคิล ซึ่งทุก ๆ เดือน จะเก็บขวดแก้วได้ราว 500 – 1,000 กิโลกรัม นำมาล้าง บด เข้ากระบวนการรีไซเคิลโดยทีมเอคโค่ เซนเตอร์ แล้วนำไปส่งให้ โซเนวา กลาส สตูดิโอ เพื่อนำไปเผาและรังสรรค์เป็นงานแก้วสวย ๆ ขึ้นมา ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องใช้เทคนิคมากมาย อาทิ การเป่า การจัดรูป การดัด เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะที่สวยงามวิจิตร และมีมูลค่าสูงกว่าตอนที่มีสภาพเป็นขวดแก้วมากนัก
สำหรับเฟสแรกของ โซเนวา เมคเกอร์ โปรแกรม นั้น ได้เชิญชวนพนักงานและแขกของรีสอร์ทให้มาร่วมกัน คือการประดิษฐ์วัสดุหรือของใช้จากขยะพลาสติค อาทิ แจกันดอกไม้, ถ้วยชาม หรือแม้กระทั่งของเล่นเด็ก ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก
