อบจ.นนทบุรี เดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองที่มีปริมาณ 351 ตันต่อวัน จัดกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา เพื่อปลูกฝังเยาวชนการร่วมมืออย่างจริงจัง ผ่านกิจกรรม Green School และ Green Product
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับ สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษาเอกชนนนทบุรี และศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต น้อมนำ “ศาสตร์แห่งพระราชา” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการสืบสานงานด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวทางที่ได้พระราชทานไว้ ด้วยการจัดกิจกรรมงานสิ่งแวดล้อมศึกษา ตอน Green & Clean “โรงเรียนสีเขียว ปีที่ 2” ภายใต้โครงการคลองสวยน้ำใส ซึ่งอบจ.นนทบุรีได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11ณ ชั้น 4 เวส์เกตฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี
พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานการจัดงานกล่าวว่า “ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาหลักสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาขยะมูลฝอยและปัญหาน้ำเสีย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไข ซึ่งเด็กและเยาวชนถือเป็นกำลังหลักที่จะเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต และสามารถพัฒนาต่อยอดให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในจังหวัดนนทบุรีกลายเป็นโรงเรียนสีเขียวต่อไป”
ไฮไลท์ของงานในปีนี้ที่จัดขึ้นที่ คือ การจัดประกวด “Green School หรือ โรงเรียนสีเขียว” กิจกรรมนำร่องสร้างโรงเรียนเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปิดโอกาสให้น้องๆ ในโรงเรียนเอกชนต่างๆ ของจังหวัดนนทบุรี ส่งโครงงานการบริหารการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนเข้าร่วมประกวด และการประกวดรางวัล 1 ผลิตภัณฑ์ 1 โรงเรียน หรือ Green Product ร่วมจุดประกายให้โรงเรียนสร้างสรรค์กิจกรรมให้แก่นักเรียน นักศึกษา ได้ใช้เวลาว่าง จัดทำผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งแต่การเริ่มคิด วางแผน การผลิต จนไปสู่กระบวนการจัดทำหีบห่อ เป็นอีก 1 โครงการที่ที่ส่งเสริมให้นำสิ่งรอบๆตัวภายในโรงเรียน มาจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าได้
คุณครูธนวรรณ ประมวลศิลป์ชัย ที่ปรึกษาโครงการ “ขยะในมือพี่ช่วยซื้อที่โรงเรียนน้อง” ของโรงเรียนอนุบาลเลิศวินิต หนึ่งในโรงเรียนคว้ารางวัลระดับเหรียญทอง ในกิจกรรม Green School หรือ โรงเรียนสีเขียว เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันปัญหาขยะล้นเมือง จากการคนเมืองทิ้งขยะปีละ 26.85 ล้านตัน ถือว่าเป็นจำนวมหาศาลและอาจจะกลายเป็นเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม ดังนั้นการนำของเก่ามา Reuse และ Recycle สามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดพลังงานในการย่อยสลายได้มาก
ทางโรงเรียนจึงมีแนวคิดที่จะสอนและปลูกฝั่งให้เด็กๆ ตะหนักถึงปัญหาของขยะล้นเมืองและคุณค่าของขยะรีไซเคิล และร่วมปลูกจิตสำนึกในการหวงแหนและร่วมกันรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงจัดทำโครงการ สอนให้เด็กได้ รู้จักขยะประเภทต่างๆ ในเบื้องต้นและเรียนรู้ในเชิงลึก ด้วยการลงมือทำ สำรวจ สังเกต สัมภาษณ์ รู้จักแยกขยะที่แปรสภาพได้ และขยะที่แปรสภาพไม่ได้ แต่สามารถนำมารีไซเคิลได้ และต่อยอดด้วยการอ่าน ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ทั้งยังแต่งตั้งให้เด็กๆ เป็น “ยุวทูตน้อย” ชักชวนคนในครอบครัว ชุมชน เข้ามาเป็นส่วนร่วมเพื่อรวมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ มีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม ภายในโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นจากโรงเรียน สู่บ้าน และสู่สังคมในอนาคต
คุณครูสวอนวิท วงษ์เนียม ที่ปรึกษาโครงการ ผลงานปุ๋ยชีวภาพดินอัมพรฯ60 หรือ” ดิน 3 เซียน” ของโรงเรียนอัมพรไพศาล หนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง จากกิจกรรม Green Product เล่าว่า
ด้วยโรงเรียนมีต้นไม้มากกว่า 500 ชนิด แต่ละชนิดมีปริมาหลายต้น ทำให้เกิดความร่มรื่น สดชื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่ามีปัญหาเรื่องปริมาณใบไม้ค่อนข้างเยอะ เวลาเผาทำลายก็จะส่งกลิ่งเหม็น เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ สร้างควัน และมลพิษภายในโรงเรียนและชุมชนรอบๆโรงเรียน จึงคิดค้นนวัตกรรมการกำจัดให้ถูกวิธีและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วย “การผลิตเศษใบไม้กลายเป็นดิน (ปุ๋ยดิน)” และได้นำสูตรการทำดินของแม่โจ้มาต่อยอด คือ นำเศษไม้ 3 ส่วน มูลวัว 1 ส่วน สลับกันเป็นชั้นๆ รดแทนน้ำเปล่า แต่ใช้ EM น้ำซาวข้าว แทนน้ำเปล่า ทั้งยังเพิ่มคุณค่าให้กับดิน ด้วยปุ๋ยมูลไส้เดือน ปุ๋ยมูลกวาง (เลี้ยงในโรงเรียน) จึงได้ปุ๋ยชีวภาพดินอัมพรฯ60 หรือ ดิน 3 เซียน ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ ไม่มีเชื้อราในดิน ทำพืชเจริญงอกงาม โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี และน้ำที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำภายในโรงเรียนใสสะอาด ไม่มีสารพิษเจือปน ระบบนิเวศน์สัตว์น้ำจึงอยู่ในสภาพที่สมดุลตามธรรมชาติ และยังนำความรู้นี้ไปเผยแพร่ให้ชุมชนรอบ ๆ โรงเรียนอีกด้วย